ประวัติ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัยของไทย ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 98 ปี
สำหรับ พล.อ. เปรม
เกิดที่ ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 8
คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์)
ต้นตระกูลติณสูลานนท์ กับนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์)
การศึกษา และ ราชการทหาร
พล.อ. เปรม สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา สงขลา ในหมายเลขประจำตัว 167 และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อปี 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า ภายหลังสงคราม พล.อ. เปรม รับราชการอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ และได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพบกสหรัฐ ที่ฟอร์ตน็อกซ์ รัฐเคนทักกี้ แล้วกลับมารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการโรงเรียนยานเกราะ ต่อมามีการจัดตั้งโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า ที่ จ.สระบุรี
เมื่อจบการศึกษาในปี 2484 พล.อ. เปรม
ได้เข้าร่วมรบในสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่ปอยเปต
ประเทศกัมพูชา จากนั้นเข้าสังกัดกองทัพพายัพ
ภายใต้การบังคับบัญชาของหลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์)
ทำการรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่างปี 2485 - 2488 ที่เชียงตุง
ภาพจาก finearts.go.th
นอกจากยศ พลเอก แล้ว พลเอกเปรม ยังถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ในปัจจุบันที่มิใช่พระบรมวงศานุวงศ์ ที่ได้รับยศ พลเรือเอก ของกองทัพเรือ และ พลอากาศเอก ของกองทัพอากาศ ด้วย จากการพระราชทานโปรดเกล้าฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2529 ในระหว่างที่ พลเอกเปรม ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่
ในปี 2502 ในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พล.อ. เปรม ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ และวุฒิสมาชิก ช่วงปี 2511-2516 ในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร
พล.อ. เปรม
รับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องในรัฐบาลนั้น
ในช่วงปลายรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ควบคู่กับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ภาพจาก finearts.go.th
พล.อ. เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจาก พล.อ. เกรียงศักดิ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2523 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาของพลเอกเปรมในการบริหารประเทศ ได้มีผลงานสำคัญมากมาย เช่น การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม การสร้างงานตามโครงการสร้างงานในชนบท (กสช.) การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาล และเอกชน (กรอ.) เพื่อส่งเสริมบทบาททางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนภายในประเทศ การดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยอย่างได้ผล โดยนำนโยบายการใช้ "การเมืองนำการทหาร" ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด
พล.อ. เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ประกอบด้วยช่วงปี 2523-2526, 2526-2529 และ 2529-2531
ภาพจาก STRINGER / THAI TV POOL / AFP
ภาพจาก HANDOUT / THAI ROYAL HOUSEHOLD BUREAU / AFP
ภาพจาก ROSLAN RAHMAN / AFP
ภาพจาก LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก