พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กับบทบาทการทำงานทางการเมือง ผู้สามารถสร้างความปรองดองในชาติ และค้นพบก๊าซธรรมชาติจนในอ่าวไทย
สำหรับ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 เป็นชาว ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา เคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศไทย และดำรงตำแหน่ง 3 วาระ ระหว่างปี 2523 - 2531 โดยหลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2531 ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541
พล.อ. เปรม รับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ในรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในช่วงปลายรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควบคู่กับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก่อนได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจาก พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2523
ภาพจาก PANUMAS SANGUANWONG / AFP
- การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม
- การสร้างงานตามโครงการสร้างงานในชนบท (กสช.) การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาล และเอกชน (กรอ.) เพื่อส่งเสริมบทบาททางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนภายในประเทศ
- การดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยอย่างได้ผล โดยนำนโยบายการใช้ "การเมืองนำการทหาร" ยุติความขัดแย้งทางอุดมการณ์ของคนไทย เปลี่ยนผู้หลงผิดให้มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และทำให้นักศึกษาที่เข้าป่าหลายคนเพื่อเข้าร่วมกับคอมมิวนิสต์ ได้ออกมาจากป่า
- ประเทศไทยมีการพบก๊าซธรรมชาติในยุคของ พล.อ.เปรม
เกิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมชายฝั่งตะวันออก ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทย
เจริญต่อเนื่องหลายปี
- การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลได้มุ่งเน้นการผลิตและส่งออกของประเทศกับประเทศสังคมนิยมตะวันออก มีเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากขึ้น
- พล.อ.เปรม ได้เข้าร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา และได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม จนทำให้มุมมองทางด้านการลงทุนของนักลงทุนจากต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยดีขึ้น
- พล.อ.เปรม ได้ตัดสินใจลดค่าเงินบาท 3 ครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกพืชผลทางการเกษตรของไทย การขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง มีการปรับอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์ มาเป็นระบบตะกร้าเงิน เพื่อสร้างความยืดหยุ่น
- สร้างท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดและแหลมฉบัง พัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก
- พล.อ.เปรม ได้เข้าร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา และได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม จนทำให้มุมมองทางด้านการลงทุนของนักลงทุนจากต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยดีขึ้น
- พล.อ.เปรม ได้ตัดสินใจลดค่าเงินบาท 3 ครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกพืชผลทางการเกษตรของไทย การขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง มีการปรับอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์ มาเป็นระบบตะกร้าเงิน เพื่อสร้างความยืดหยุ่น
- สร้างท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดและแหลมฉบัง พัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก
พล.อ. เปรม ได้รับการไว้วางใจเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 3 สมัย โดยสมัยที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2523 - 29 เมษายน 2526, สมัยที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2526 - 4 สิงหาคม 2529 และสมัยที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2529 - 3 สิงหาคม 2531
หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ. เปรม เป็นองคมนตรี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2531 จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และในวันที่ 4 สิงหาคม 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคมนตรี และล่าสุด เป็นที่ปรึกษาและกรรมการในคณะอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และได้ลงนามในสมุดจดทะเบียนราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะสักขีพยาน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบเมื่อเช้าวันนี้ (26 พฤษภาคม)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก