x close

WHO กำหนดเป็นครั้งแรก ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถูกจัดเป็นภาวะทางการแพทย์

          WHO กำหนดเป็นครั้งแรก ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถูกจัดเป็นภาวะทางการแพทย์ หลังถกเถียงกันมานานหลายปี หมดแรง ทัศนคติไม่ดีต่องาน ประสิทธิภาพลดลง เข้าข่าย


          วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดอะสตาร์ มีรายงานอ้างอิงสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการบรรจุ "ภาวะหมดไฟในการทำงาน" (Burnout) ลงในคู่มือการจำแนกโรคระหว่างประเทศ (ICD-11) อันเป็นคู่มือสำหรับอ้างอิงในการวินิจฉัยโรคและประกันสุขภาพ ทำให้เป็นครั้งแรกที่ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถูกจัดเป็นภาวะทางการแพทย์

          การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ในกรุงเจนีวา หลังจากที่มีการโต้เถียงกันในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ว่าภาวะหมดไฟในการทำงาน สมควรได้รับการจำแนกว่าเป็นโรคภัยทางการแพทย์หรือไม่

          โดย ICD-11 ระบุว่า ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นอาการที่เกิดจากความเครียดรื้อรังในการทำงาน ซึ่งไม่ได้รับการจัดการ สามารถแบ่งลักษณะอาการได้ 3 อย่าง คือ

          - รู้สึกหมดแรงหรืออ่อนเพลีย
          - มีใจห่างเหินออกจากงาน รู้สึกต่อต้านหรือมีความคิดด้านลบต่องาน
          - ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพลดลง 



          อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวจะถูกนำมาพิจารณาในบริบทของการทำงานเท่านั้น และไม่สมควรนำมาใช้เพื่ออธิบายประสบการณ์ด้านอื่น ๆ ของชีวิต

          ทั้งนี้ สำหรับ ICD-11 เป็นคู่มือการจำแนกโรคที่ถูกร่างขึ้นในปี 2561 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม 2565 อย่างไรก็ตาม ในการอัปเดตข้อมูลใน ICD-11 ครั้งนี้ นอกจากจะมีภาพเพิ่มภาวะหมดไฟในการทำงานลงไปในคู่มือแล้ว ยังมีการเพิ่มพฤติกรรมทางเพศแบบย้ำทำ เข้าไปในกลุ่มความผิดปกติทางจิต รวมถึงเพิ่ม อาการติดเกม ลงในกลุ่มเดียวกับการเสพติดการพนันและสารเสพติด 

          พร้อมกันนี้ ยังได้มีการถอดภาวะข้ามเพศ ออกจากกลุ่มอาการความผิดปกติทางจิต แล้วนำไปใส่ไว้ในส่วนอาการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศแทน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
WHO กำหนดเป็นครั้งแรก ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถูกจัดเป็นภาวะทางการแพทย์ โพสต์เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562 เวลา 18:46:44 23,811 อ่าน
TOP