Animal Farm หรือ ฟาร์มเดรัจฉาน หนังสือที่ พล.อ. ประยุทธ์ ชวนให้อ่านว่าด้วยหมูที่ปฏิวัติเอาฟาร์มมาจากมนุษย์ ก่อนตั้งตนเป็นเผด็จการ กดขี่ข่มเหงสัตว์อื่น ๆ แต่ป้ายยาให้สัตว์ทุกตัวเชื่อว่า สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า พล.ท. วีรชน
สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาล
เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
และอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า เรากำลังเผชิญปัญหารอบด้าน
และไม่อยากให้โยงนายกรัฐมนตรีไปถึงเรื่องการเมือง พร้อมกันนี้
ท่านยังฝากแนะนำให้อ่านหนังสือเรื่อง Animal Farm ฉบับภาษาไทย
ที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้ดี
หนังสือเรื่อง Animal Farm หรือชื่อภาษาไทยคือ ฟาร์มเดรัจฉาน ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของ จอร์จ ออร์เวลล์ ซึ่งต้องการที่จะสะท้อนให้เห็นภาพของการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 จนเข้าสู่ยุคการปกครองของสตาลิน และสหภาพโซเวียต โดยหนังสือเรื่อง Animal Farm เป็นเรื่องราวของฟาร์มปศุสัตว์ที่ชื่อว่า แมเนอร์ ฟาร์ม ที่มีเจ้าของฟาร์มเป็นมนุษย์คือ นายโจนส์ แต่เนื่องจากนายโจนส์ทั้งขาดความรับผิดชอบ และเป็นคนขี้เหล้า จึงส่งผลให้ชีวิตของสัตว์ในฟาร์มย่ำแย่ จึงทำให้ในคืนหนึ่ง ตาเฒ่าเมเจอร์ หมูพ่อพันธุ์ ได้ลุกขึ้นมาปฏิวัติในฟาร์มและชนะ จนเมื่อตาเฒ่าเมเจอร์เสียชีวิต หมูหนุ่ม 2 ตัว คือ หมูสโนว์บอล และหมูนโปเลียน ก็ได้ยึดอำนาจ และเปลี่ยนชื่อฟาร์มจาก แมเนอร์ ฟาร์ม เป็น แอนิมอล ฟาร์ม พร้อมกับประกาศใช้บัญญัติ 7 ประการ โดยมีข้อสำคัญที่กล่าวว่า "สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน"
นายโจนส์พยายามที่จะทวงคืนฟาร์ม แต่ล้มเหลว หมูสโนว์บอลจึงประกาศที่จะเปลี่ยนแปลงฟาร์มให้ทันสมัยขึ้นด้วยการสร้างกังหันลม แต่หมูนโปเลียนได้ใช้สุนัขไล่หมูสโนว์บอลออกไป พร้อมประกาศตัวเป็นผู้นำของฟาร์ม
ในฐานะผู้นำของฟาร์ม หมูนโปเลียนได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปกครองฟาร์ม จากการประชุมของทุกฝ่ายกลายเป็นคณะกรรมการหมู และบอกว่าความคิดเรื่องการสร้างกังหันลมมาจากหมูสควีลเลอร์ สัตว์ทุกตัวในฟาร์มทำงานอย่างหนัก เพราะหวังว่าหลังจากที่มีกังหันลมแล้ว ชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่วันหนึ่ง พายุได้พัดทำลายกังหันลม ทำให้หมูสควีลเลอร์และหมูนโปเลียนบอกว่า การที่กังหันลมพัง เป็นเพราะหมูสโนว์บอล มีการกล่าวหาว่าหมูสโนว์บอลสมคบคิดกับนายโจนส์ เจ้าของฟาร์มคนเก่าที่เป็นมนุษย์ และหมูนโปเลียนยังยกความดีความชอบว่าตัวเองเป็นฮีโร่ในการต่อสู้กับนายโจนส์ ตอนที่นายโจนส์ต้องการทวงฟาร์มคืน ทั้งที่หมูนโปเลียนไม่ได้อยู่ร่วมสู้รบกับสัตว์ตัวอื่น รวมทั้งหมูนโปเลียนยังป่าวประกาศว่าชีวิตของสัตว์ทุกตัวตอนนี้ ดีกว่าชีวิตตอนอยู่ใต้การปกครองโดยมนุษย์
จากนั้น นายเฟเดอร์ริก ฟาร์มเพื่อนบ้าน ได้ระเบิดกังหันลม และกลายเป็นการสู้รบกัน แม้เหล่าสัตว์จะชนะ แต่ก็สูญเสียไปมาก รวมทั้งม้าที่ชื่อว่า บ็อกเซอร์ ที่ล้มขณะทำงานในกังหันลม และถูกคนกำจัดซากสัตว์เอาร่างไป แต่กระนั้น หมูสควีลเลอร์ยังบอกว่า รถที่มารับร่างของม้าบ็อกเซอร์นั้น เป็นรถของทางการแต่เพียงแค่ไม่ได้เปลี่ยนป้ายที่อยู่ด้านข้าง ม้าบ็อกเซอร์ได้ถูกยกย่องในฐานะวีรบุรุษ แต่หมูนโปเลียนก็ตั้งใจที่จะขายม้าบ็อกเซอร์ให้คนกำจัดซากสัตว์อยู่แล้ว เพื่อที่จะเอาเงินมาซื้อเหล้าดื่มเอง
สุดท้ายแล้ว หลายปีผ่านไป กังหันลมก็ถูกสร้างใหม่ แต่ไม่มีการติดไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใด ๆ เพราะหมูนโปเลียนยืนยันว่า สัตว์ที่มีความสุขคือสัตว์ที่อยู่อย่างเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ สัตว์หลายตัวที่เป็นผู้นำการปฏิวัติก็ล้มตาย นายโจนส์ก็ตาย เหล่าหมูผู้นำก็เริ่มทำตัวเหมือนมนุษย์ ทั้งเดินด้วยขา 2 ข้าง ถือแส้ ดื่มแอลกอฮอล์ และบัญญัติ 7 ประการก็ถูกเปลี่ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางชนิดมีความเท่าเทียมมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น" และ "สี่เท้าก็ดี แต่ 2 เท้าดีกว่า" หมูนโปเลียนหันไปคบค้ามนุษย์จากฟาร์มอื่น และประกาศให้ฟาร์มอื่นเป็นพันธมิตร พร้อมกับเปลี่ยนคืนชื่อเดิมสู่ แมเนอร์ ฟาร์ม และจบตรงที่ว่า เหล่ามนุษย์ได้นั่งมองหมูและมนุษย์เล่นไพ่กัน และแยกไม่ออกว่าทั้งมนุษย์และหมูต่างกันอย่างไร