x close

สาวท้องช็อกโลกพัง คู่หมั้น-น้องสาว แอบกินกันลับหลัง แถมแชร์ความรักลงเฟซบุ๊ก

          สาวช็อกยืนไม่อยู่ โดนคู่หมั้นเทแรง ทั้งที่กำลังท้อง ก่อนมารู้ความจริง แอบกิ๊กกับน้องสาวลับหลัง ก่อนหอบผ้าหนีตามกัน แชร์ความรักลงเฟซบุ๊ก ไม่อายโซเชียล
 
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lau Ra

          ลอร่า มาร์ติน คือหญิงสาวชาวสกอต วัย 30 ปี ที่กำลังจะเป็นเจ้าสาว และเฝ้าฝันถึงวันแต่งงาน เหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คน ความรักของเธอเริ่มต้นขึ้นในปี 2553 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอได้รู้จักกับช่างยนต์หนุ่มที่ชื่อ ริกกี้ อายุ 36 ปี ต่างคนต่างก็ปิ๊งกันในเวลาไม่นาน เขาเองก็เข้ากับครอบครัวเธอได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับน้องสาว

          แต่ฉากหน้าที่เป็นภาพสวยงาม กลับมีเบื้องหลังที่เลวร้าย ลอร่าทั้งช็อก เจ็บปวด และหัวใจสลายอย่างที่สุด เมื่อมารับรู้ว่าแท้จริงแล้ว น้องสาว กับคู่หมั้น สองคนที่เธอรักมากที่สุด แอบร่วมมือกันแทงข้างหลัง ลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ในขณะที่เธอกำลังท้อง 

          เรื่องราวสุดเจ็บปวดดังกล่าวถูกนำมารายงานโดยเว็บไซต์เดอะซัน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 โดย ลอร่า มีน้องสาวชื่อ เคทลิน อายุ 19 ปี ซึ่งห่างกับเธอ 11 ปี เธอกับริกกี้มีลูกด้วยกัน 3 คน ซึ่งเธอเลี้ยงลูกไปพร้อม ๆ กับดูแลน้องสาว รักมากเหมือนกับลูกคนหนึ่ง ริกกี้ก็เข้ากับเคทลินได้ดี ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และทุกอย่างในครอบครัวก็ช่างดูเพอร์เฟกต์


ลอร่า มาร์ติน (ซ้าย) กับ เคทลิน มาร์ติน (ขวา) สองสาวพี่น้อง ที่อายุห่างกัน 11 ปี 

          ในช่วงแรก ๆ ที่ลอร่าคบหาดูใจกับริกกี้นั้น เธอเองก็เป็นกังวลไม่น้อย เพราะตัวเองก็มีลูกติด 2 คน อีกทั้งเคทลิทก็เพิ่งอายุ 10 ขวบ ซึ่งเธอก็ต้องคอยดูแลไปพร้อม ๆ กับลูก แต่โชคดีของลอร่า เพราะริกกี้เข้ากับเด็กทุกคนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งลอร่าด้วย เธอไม่ได้แสดงอาการต่อต้านเขาแม้แต่น้อย และเธอก็เป็นส่วนสำคัญในความสัมพันธ์ของพี่สาว

          ไม่ว่าลอร่าจะทำอะไร เธอจะบอกเคทลินทุกเรื่อง ทุก ๆ การตัดสินใจสำคัญมักจะผ่านความเห็นของเคทลินก่อนเสมอ เพราะเธออายุห่างกับน้องหลายปี ไม่อยากให้น้องต้องรู้สึกแปลกแยก ซึ่งหลังจากที่ริกกี้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับลอร่า เคทลินก็อาศัยอยู่ร่วมกันด้วย

          สำหรับริกกี้นั้น ลอร่า เล่าว่า แม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่โรแมนติก แต่เขาก็เป็นคนดี น่ารัก มีเสน่ห์ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการในตัวคนรัก ริกกี้ก็มีครบหมด การมีเขาอยู่ในชีวิตช่างเหมือนกับความฝันแสนสุข และแล้วในคืนหนึ่งของเดือนกรกฎาคม 2555 ขณะที่ลอร่ากำลังจะเข้านอนตามปกติ ริกกี้ก็ได้คุกเข่าข้างเตียง พร้อมหยิบแหวนออกมาขอเธอแต่งงาน สำหรับผู้ชายที่ไม่ค่อยโรแมนติกอย่างริกกี้แล้ว สิ่งที่เขาทำในตอนนั้นมันคือความโรแมนติกอย่างที่สุด แน่นอนว่าลอร่าตอบตกลง ก่อนจะเข้านอนด้วยหัวใจพองโต


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lau Ra

          หลังจากที่เคทลินโตขึ้น น้องสาวก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่ แต่ก็มาเลี้ยงหลานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทำให้ลอร่าแฮปปี้มาก และในเดือนสิงหาคม 2560 ลอร่าก็ตั้งครรภ์เบบี๋อีกคนหนึ่ง เธอมีความสุขมาก คิดว่าครอบครัวของตัวเองสมบูรณ์พร้อมหมดแล้ว ดังนั้นมันก็ถึงเวลาที่จะแต่งงานกันจริง ๆ จัง ๆ สักที ด้วยความที่เธอมีลูกสาวมาแล้วหลายคน เธอจึงหวังให้เด็กคนนี้เป็นผู้ชาย ทางด้านเคทลินก็ไปมาหาสู่บ่อยกว่าเดิม คอยช่วยเหลือพี่สาวขณะท้อง ริกกี้ก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขาสนิทกับเคทลินมาก

          ทว่าหลังจากที่เวลาผ่านพ้นไป ลอร่ากลับรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินในบ้านของตัวเอง เพราะคู่หมั้นกับน้องสาวใกล้ชิดสนิทกันมาก บางครั้งใกล้ชิดกันมากเกินจนเธอเริ่มรู้สึกหึงหวง แต่เธอก็พยายามสลัดเรื่องนี้ทิ้งไป มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ มันคงเป็นฮอร์โมนคนท้องที่ทำให้ตัวเองวิตกกังวลผิดปกติ อีกทั้งยังเชื่อใจและไว้ใจทั้งคู่มาก จนเชื่อว่ามันไม่มีทางมีเรื่องเกินเลยหรือไม่เหมาะสมขึ้นอย่างแน่นอน

          แต่ความกังวลมันก็เพิ่มขึ้น เพราะบางครั้ง ลอร่าเห็นน้องสาวกับคู่หมั้นนั่งกอดกันกลมบนโซฟา หัวเราะคิกคักอยู่ด้วยกัน ริกกี้ก็เริ่มทำตัวห่างเหินกับลอร่า เริ่มติดโทรศัพท์มากขึ้น เหมือนกับว่าติดแชตอยู่กับใครสักคน เธอยังพบว่าริกกี้พูดถึงเคทลินบ่อยกว่าปกติ จนวันหนึ่งหลุดปากพูดว่าเคทลินเคยมาบ้านตอนที่ลอร่าไม่อยู่ ซึ่งเธอมองว่ามันแปลกมาก เพราะปกติน้องสาวจะไม่มาบ้านนี้ตอนที่เธอไม่อยู่

 
          อย่างไรก็ตาม ลอร่าคิดว่าน้องอาจจะลืมของ จนต้องกลับมาเอา ความกังวลเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนลอร่าตัดสินใจเปิดปากพูดกับเขา ซึ่งเขาบอกว่าเธอคิดมากเกินจนฟุ้งซ่าน อีกทั้งยังตอกย้ำว่าการตั้งคำถามถึงเรื่องนี้เป็นอะไรที่ดูโง่เง่าไร้สาระ เพราะเคทลินคือน้องสาว เป็นคนหนึ่งในครอบครัว ดังนั้นควรจะมาบ้านหลังนี้เมื่อไหร่ก็ได้ จนทำให้ลอร่ารู้สึกผิด จากนั้นเคทลินก็มาเยี่ยมแทบจะทุกสุดสัปดาห์ ซึ่งเวลาจะกลับ หรือออกไปข้างนอก ริกกี้ก็จะอาสาขับรถไปส่งเสมอ

          ลอร่ายังคงคิดวนเวียนถึงความสนิทสนมออกนอกหน้าระหว่างน้องสาวกับคนรัก แม้พยายามไม่คิดมากก็ตาม คิดว่ามันคงจริงอย่างที่ริกกี้พูดว่าเธอคิดมากไปเอง แต่ในวันหนึ่งของเดือนธันวาคม 2560 เธอก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากว่าที่ผ่านมาเธอคิดน้อยไปด้วยซ้ำ

          อยู่ดี ๆ ริกกี้ก็โทร. มาหา ขอบอกเลิกแบบตรง ๆ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาบอกเธอผ่านโทรศัพท์ว่า "ผมไม่ได้รักคุณแล้ว ผมจะย้ายออกละนะ ผมเสียใจนะลอร่า แต่ผมทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ คุณน่ะสติแตกบ้าบอไปหมด มันถึงเวลาต้องจบกันแล้วล่ะ" 


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lau Ra

          หลังจากนั้นริกกี้ก็วางสายไป เขาเก็บข้าวของออกไป และหายไปจากชีวิตลอร่า เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้ลอร่าหัวใจสลาย สับสน และเจ็บปวดอย่างที่สุด เพราะมาโดนเทแบบงง ๆ ทั้งที่ตัวเองกำลังท้อง หญิงสาวปรึกษาเรื่องนี้กับเคทลิน ซึ่งตอนแรกน้องก็เหมือนจะปลอบใจ แต่หลัง ๆ เคทลินก็ไม่รับสายพี่สาวอีก หายเงียบไป ไม่ติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้น

          และหลังจากนั้นไม่นาน ตอนที่เคทลินกำลังท้อง 4 เดือน เคทลิน กับริกกี้ ก็ได้ประกาศความสัมพันธ์อย่างเปิดเผยบนเฟซบุ๊ก ชัดเจนทุกอย่างว่ากำลังคบกันอยู่ และแฮปปี้มาก ลอร่าหัวใจสลาย เหมือนโลกทั้งใบพังตรงหน้า เพราะคนที่ไว้ใจมากที่สุด 2 คน แทงข้างหลังกันแบบหน้าตาเฉย คนอื่นในครอบครัวต่างก็ช็อกเช่นกัน

          ทางด้าน เคทลิน กับริกกี้ ก็ได้ออกมายอมรับผ่านสื่อว่าคบกันจริง และย้ายหนีออกไปอยู่ด้วยกันจริง ๆ ริกกี้ กล่าวว่า เคทลินคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เธอคือคนที่ใช่อย่างแท้จริง และถ้าไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ คงมาเสียใจทีหลัง ซึ่งหลังจากทิ้งลอร่าไปแล้ว ก็รู้สึกดีมีความสุข แฮปปี้กับตัวเองมาก


          ขณะที่ เคทลิน กล่าวว่า ไม่คิดกลับไปปรับความสัมพันธ์กับพี่สาว เพราะมันผ่านไปแล้ว และตัวเองไม่ได้สนใจมันอีก อีกทั้งพี่สาวก็เป็นคนเยอะเกินเหตุ หญิงสาวอ้างอีกว่า ความรักของเธอกับริกกี้มันซับซ้อน คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ก็คบกันมาได้ปีกว่าแล้ว และมีความสุขสุด ๆ

          สำหรับลอร่านั้น เธอเฝ้าโทษตัวเองอยู่เป็นเดือน ๆ ว่าตัวเองผิดเอง กว่าจะทำใจให้ต่อสู้กับทุกอย่างได้มันก็ยากมาก เธอไม่สามารถมองดูหน้าริกกี้เวลาเขามาหาลูกได้ ๆ แม้จะเจ็บ แต่ก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อลูกและตัวเอง

          โดยเธอโพสต์เปิดใจบนเฟซบุ๊ก Lau Ra ว่า การสูญเสียเขาคนนั้นไป มันทำให้ความเป็นตัวเองกลับคืนมา เพราะตอนที่เขายังอยู่ เขาทำให้เธอลืมรักตัวเองไป เพราะมัวแต่รักเขา มัวแต่ทำให้เขามีความสุข ตอนนี้เธอรักตัวเองแล้ว มองว่าตัวเองมีคุณค่ามากที่สุด และเธออยากฝากไปถึงผู้หญิงหลาย ๆ คนว่า ถ้าหากตัวเองต้องทนทุกข์ ต้องชอกช้ำกับผู้ชายแล้วละก็ นั่นแสดงว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีค่าพอที่จะรัก ไม่คู่ควรกับความทุ่มเท และควรหยุดทรมานตัวเองเพื่อความสุขของเขา เพราะเรามีค่ามากกว่านั้น


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lau Ra


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lau Ra

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวท้องช็อกโลกพัง คู่หมั้น-น้องสาว แอบกินกันลับหลัง แถมแชร์ความรักลงเฟซบุ๊ก อัปเดตล่าสุด 31 พฤษภาคม 2562 เวลา 13:18:12 42,302 อ่าน
TOP