สาวอินเดีย วัย 26 ปี เกิดในวรรณะล่าง ชีวิตแสนลำบาก ฝ่าฟันจนได้เป็นหมอ แต่ชีวิตเลวร้าย โดนแพทย์หญิงรุ่นพี่รวมหัวกลั่นแกล้งรุนแรง ขู่จะทำลายอาชีพ จนสุดท้ายฆ่าตัวตาย
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปในทางที่ดี พายาลย้ายไปทำงานกับรุ่นพี่ทีมอื่น และเธอก็สบายใจขึ้นมาก แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน โดยในช่วงวันที่ 10-12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พายาลโดนกลั่นแกล้งหนักหน่วงรุนแรงมาก จนเธอตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับผู้ใหญ่ด้วยตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และ 10 วัน หลังจากนั้น พายาลก็ฆ่าตัวตาย
การเสียชีวิตของพายาลนำพาความโศกเศร้าอย่างยิ่งมาสู่ครอบครัวและชุมชน ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างออกมาไว้อาลัยหญิงสาวคนนี้ เธอผู้กระตือรือร้น ฉลาดเฉลียว และทำงานหนัก ต้องจากไปอย่างน่าเศร้า โดย อภีดา กล่าวอย่างเจ็บปวดว่า ลูกสาวอยากเป็นหมอมาโดยตลอด เหตุผลที่เป็นแรงจูงใจสำคัญก็คือ เธออยากรักษาน้องชายที่เกิดมาพิการเดินไม่ได้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และเธอก็อยากช่วยเหลือคนอื่นมาโดยตลอด ทางด้านเพื่อนร่วมงานและคนอื่น ๆ ในโรงพยาบาล ต่างก็ตกตะลึงกับข่าวเศร้านี้ไม่น้อย
นายแพทย์ราเมศ พรหมมาล ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์โทภิวาลา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมที่เศร้าสลดและน่าหดหู่ใจมาก ตัวเขาและทุกคนต่างสะเทือนใจ คิดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาไม่ทราบเลยแม้แต่น้อยว่าพายาลพบเจอกับความเลวร้ายเหล่านั้น
นายแพทย์ราเมศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางวิทยาลัยกับโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนแล้ว และก่อนหน้านี้เขาได้ถามซัลมาน สามีของพายาล ว่าทำไมไม่มีใครส่งเรื่องร้องเรียนมายังสำนักงานผู้อำนวยการ เพราะพวกเขาน่าจะสามารถป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้ แต่มันสายเกินไป ซึ่งซัลมานก็ตอบไปว่า เขาก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะแจ้งหัวหน้าแล้ว และพวกเขาก็บอกว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์ พยาบาล เพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาล และวิทยาลัย รวมทั้งคนอื่น ๆ อีกมาก ได้ออกมาเดินขบวนประท้วง เรียกร้องขอความยุติธรรมให้กับพายาล โดยล่าสุดพบว่า ทางโรงพยาบาลได้สั่งพักงานแพทย์หญิงคู่กรณีทั้ง 3 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานระบุอีกว่า ขณะนี้แพทย์หญิงทั้ง 3 คนถูกจับกุม และควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธทุกอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกใส่ความ และเรียกร้องความยุติธรรม
พายาล ทัดวี คือ หญิงสาวชาวอินเดีย วัย 26 ปี ผู้เกิดและเติบโตในครอบครัวชนเผ่า Tadvi Bhil หนึ่งในกลุ่มชนชั้นล่างของสังคม ถูกจัดอยู่ในวรรณะชนกลุ่มน้อย (Scheduled Tribe) ที่โอกาสในชีวิตตามหลังคนอื่น ๆ เธอใฝ่ฝันอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก เพราะอยากรักษาคนจน อยากให้พวกเขาเหล่านี้มีโอกาสได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีเหมือนกับคนทั่วไปบ้าง
ด้วยความที่สถานะของเธอด้อยกว่าคนอื่น เธอจึงต้องพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ต้องพบเจอกับการแข่งขันที่สูงมากในการแย่งชิงโควตาเข้าโรงเรียนแพทย์ ซึ่งเธอทำได้สำเร็จ ประสบความสำเร็จก้าวแรกในการทำตามความฝัน และสร้างความภาคภูมิใจแก่ครอบครัวอย่างที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องยากเย็นมากที่ชนกลุ่มน้อยจะสามารถทำได้
พายาล มุ่งมั่นตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก ทุ่มเทเพื่อการเป็นแพทย์อย่างที่สุด จนในที่สุดเธอก็เรียนจบปริญญาตรี และเดินทางไปศึกษาต่อในด้านสูตินรีเวชวิทยาที่วิทยาลัยแพทย์ชื่อดังในนครมุมไบ อนาคตของหญิงสาวนั้นสดใส เธอเป็นความหวังสำคัญของครอบครัวและชุมชน แต่เธอกลับต้องพบกับความเลวร้าย มันทำลายเธอทั้งกายและใจ จนสาวอินเดียคนนี้ฆ่าตัวตาย
เรื่องราวชีวิตน่าเศร้าสลดใจของพายาล ได้ถูกหยิบยกมารายงานโดยสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 โดยพายาลอาศัยอยู่ในเมืองจาลกาออน รัฐมหาราษฏระ ทางตอนกลางของอินเดีย ซึ่งหลังจากเรียนจบ พายาลได้พบรักกับนายแพทย์หนุ่มที่ชื่อ ซัลมาน ทัดวี และได้แต่งงานกับเขาในเวลาต่อมา ชีวิตรักของเธอนั้นสวยงาม อีกทั้งอาชีพการงานก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดี ทว่า...
พายาล ตกเป็นเป้าโจมตีของแพทย์หญิงรุ่นพี่ 3 คน พวกหล่อนเกลียดชังเธอมาก รุมกลั่นแกล้งรังแกเธอสารพัดในทุก ๆ อย่างเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันบั่นทอนจิตใจอย่างยิ่ง โดย อภีดา แม่ของพายาล เล่าว่า ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังถึงความเจ็บปวดที่เธอพบเจอ รุ่นพี่ทั้ง 3 คนรุมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายอยู่ตลอดเวลา มักจะดูถูกดูแคลนให้อับอายขายหน้าต่อหน้าคนไข้ รวมทั้งเคยปาแฟ้มประวัติคนไข้ใส่หน้าเธอแบบเต็ม ๆ
ด้วยความที่สถานะของเธอด้อยกว่าคนอื่น เธอจึงต้องพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ต้องพบเจอกับการแข่งขันที่สูงมากในการแย่งชิงโควตาเข้าโรงเรียนแพทย์ ซึ่งเธอทำได้สำเร็จ ประสบความสำเร็จก้าวแรกในการทำตามความฝัน และสร้างความภาคภูมิใจแก่ครอบครัวอย่างที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องยากเย็นมากที่ชนกลุ่มน้อยจะสามารถทำได้
พายาล มุ่งมั่นตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก ทุ่มเทเพื่อการเป็นแพทย์อย่างที่สุด จนในที่สุดเธอก็เรียนจบปริญญาตรี และเดินทางไปศึกษาต่อในด้านสูตินรีเวชวิทยาที่วิทยาลัยแพทย์ชื่อดังในนครมุมไบ อนาคตของหญิงสาวนั้นสดใส เธอเป็นความหวังสำคัญของครอบครัวและชุมชน แต่เธอกลับต้องพบกับความเลวร้าย มันทำลายเธอทั้งกายและใจ จนสาวอินเดียคนนี้ฆ่าตัวตาย
เรื่องราวชีวิตน่าเศร้าสลดใจของพายาล ได้ถูกหยิบยกมารายงานโดยสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 โดยพายาลอาศัยอยู่ในเมืองจาลกาออน รัฐมหาราษฏระ ทางตอนกลางของอินเดีย ซึ่งหลังจากเรียนจบ พายาลได้พบรักกับนายแพทย์หนุ่มที่ชื่อ ซัลมาน ทัดวี และได้แต่งงานกับเขาในเวลาต่อมา ชีวิตรักของเธอนั้นสวยงาม อีกทั้งอาชีพการงานก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดี ทว่า...
นอกจากนี้แล้ว พายาลยังไม่สามารถกินข้าวคนเดียวได้อย่างสงบสุข เพราะรุ่นพี่ทั้ง 3 คนจะต้องตามมาหาเรื่องให้ได้ และยังเคยขู่อาฆาตว่าจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พายาลได้เป็นหมอเต็มตัวอีกด้วย
อภีดา เล่าว่า เธอเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลในนครมุมไบ ที่เดียวกับที่ลูกสาวทำงาน แต่แทบไม่เคยได้มีเวลาพบลูกสาวเลย เนื่องจากลูกทำงานหนักมาก ยุ่งอยู่ตลอดเวลา ได้แต่มองการทำงานของลูกอยู่ห่าง ๆ และที่นั่นเอง อภีดาก็พบว่าสิ่งที่ลูกเล่าเป็นความจริง เธอเห็นลูกตกเป็นเหยื่อกลั่นแกล้งกับตา
อภีดาทั้งเจ็บทั้งแค้น ตั้งใจจะร้องเรียนพฤติกรรมของรุ่นพี่ทั้ง 3 คนที่รังแกลูกสาว แต่พายาลได้ห้ามเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้อาชีพการงานของรุ่นพี่เหล่านี้ได้รับผลกระทบ และทั้ง 3 คนนั้นคงยิ่งรังแกเธอหนักกว่าเดิม จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2561 อภีดา กับซัลมาน ลูกเขย ไม่สามารถทนเห็นพายาลถูกรังแกซ้ำ ๆ ต่อไปได้ไหว พวกเขาเข้าร้องเรียนกับหัวหน้าและอาจารย์แพทย์ พร้อมขอให้ย้ายพายาลไปทำงานกับทีมอื่นแทน
อภีดา เล่าว่า เธอเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลในนครมุมไบ ที่เดียวกับที่ลูกสาวทำงาน แต่แทบไม่เคยได้มีเวลาพบลูกสาวเลย เนื่องจากลูกทำงานหนักมาก ยุ่งอยู่ตลอดเวลา ได้แต่มองการทำงานของลูกอยู่ห่าง ๆ และที่นั่นเอง อภีดาก็พบว่าสิ่งที่ลูกเล่าเป็นความจริง เธอเห็นลูกตกเป็นเหยื่อกลั่นแกล้งกับตา
อภีดาทั้งเจ็บทั้งแค้น ตั้งใจจะร้องเรียนพฤติกรรมของรุ่นพี่ทั้ง 3 คนที่รังแกลูกสาว แต่พายาลได้ห้ามเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้อาชีพการงานของรุ่นพี่เหล่านี้ได้รับผลกระทบ และทั้ง 3 คนนั้นคงยิ่งรังแกเธอหนักกว่าเดิม จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2561 อภีดา กับซัลมาน ลูกเขย ไม่สามารถทนเห็นพายาลถูกรังแกซ้ำ ๆ ต่อไปได้ไหว พวกเขาเข้าร้องเรียนกับหัวหน้าและอาจารย์แพทย์ พร้อมขอให้ย้ายพายาลไปทำงานกับทีมอื่นแทน
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปในทางที่ดี พายาลย้ายไปทำงานกับรุ่นพี่ทีมอื่น และเธอก็สบายใจขึ้นมาก แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน โดยในช่วงวันที่ 10-12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พายาลโดนกลั่นแกล้งหนักหน่วงรุนแรงมาก จนเธอตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับผู้ใหญ่ด้วยตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และ 10 วัน หลังจากนั้น พายาลก็ฆ่าตัวตาย
การเสียชีวิตของพายาลนำพาความโศกเศร้าอย่างยิ่งมาสู่ครอบครัวและชุมชน ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างออกมาไว้อาลัยหญิงสาวคนนี้ เธอผู้กระตือรือร้น ฉลาดเฉลียว และทำงานหนัก ต้องจากไปอย่างน่าเศร้า โดย อภีดา กล่าวอย่างเจ็บปวดว่า ลูกสาวอยากเป็นหมอมาโดยตลอด เหตุผลที่เป็นแรงจูงใจสำคัญก็คือ เธออยากรักษาน้องชายที่เกิดมาพิการเดินไม่ได้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และเธอก็อยากช่วยเหลือคนอื่นมาโดยตลอด ทางด้านเพื่อนร่วมงานและคนอื่น ๆ ในโรงพยาบาล ต่างก็ตกตะลึงกับข่าวเศร้านี้ไม่น้อย
นายแพทย์ราเมศ พรหมมาล ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์โทภิวาลา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมที่เศร้าสลดและน่าหดหู่ใจมาก ตัวเขาและทุกคนต่างสะเทือนใจ คิดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาไม่ทราบเลยแม้แต่น้อยว่าพายาลพบเจอกับความเลวร้ายเหล่านั้น
นายแพทย์ราเมศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางวิทยาลัยกับโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนแล้ว และก่อนหน้านี้เขาได้ถามซัลมาน สามีของพายาล ว่าทำไมไม่มีใครส่งเรื่องร้องเรียนมายังสำนักงานผู้อำนวยการ เพราะพวกเขาน่าจะสามารถป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้ แต่มันสายเกินไป ซึ่งซัลมานก็ตอบไปว่า เขาก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะแจ้งหัวหน้าแล้ว และพวกเขาก็บอกว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์ พยาบาล เพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาล และวิทยาลัย รวมทั้งคนอื่น ๆ อีกมาก ได้ออกมาเดินขบวนประท้วง เรียกร้องขอความยุติธรรมให้กับพายาล โดยล่าสุดพบว่า ทางโรงพยาบาลได้สั่งพักงานแพทย์หญิงคู่กรณีทั้ง 3 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานระบุอีกว่า ขณะนี้แพทย์หญิงทั้ง 3 คนถูกจับกุม และควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธทุกอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกใส่ความ และเรียกร้องความยุติธรรม