x close

จากใจลูกสาว เคยอายพ่อเป็นดาวน์ซินโดรม จนตระหนักได้ ว่ารักพ่อมากแค่ไหน

        ลูกสาวเปิดความรู้สึกจากใจ เคยโดนแกล้งและอับอายที่พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม จนมาตระหนักได้ว่ารักพ่อมากแค่ไหน อยากขอโทษ อยากบอกว่าเสียใจ และไม่มีใครแข็งแกร่งเท่าพ่อ

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม

        ริชชี่ แอนน์ กัสตีโญ คือหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ผู้มีชีวิตที่อาจจะแตกต่างไปจากใครหลาย ๆ คน เพราะพ่อของเธอเป็นผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) สมัยที่เธอยังเด็ก เธอตกเป็นเป้าโจมตีของเด็กคนอื่น พวกเขาล้อเลียนเธอ หัวเราะเยาะเธอ กลั่นแกล้งรังแกสารพัด อีกทั้งยังว่าเธอว่าเป็น "เด็กประหลาด" ตอนแรกริชชี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงถูกปฏิบัติเช่นนั้น และไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นบอกว่าพ่อ "แตกต่าง" แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เข้าใจ และมันทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้า ไม่อยากให้ใครรู้ว่าพ่อไม่เหมือนคนอื่น

        หญิงสาวคนนี้เคยรู้สึกแย่ที่เป็นลูกของคนที่เป็นดาวน์ซินโดรม มันทำให้เธอเกือบจะห่างเหินไปจากพ่อ เกือบจะหันหลังให้กับเจ้าของสองมือที่อุ้มชูเลี้ยงดูเธอมาจนโต เพราะไม่อยากต้องมาอับอาย จนกระทั่งในวันหนึ่ง เธอก็ตระหนักได้ว่าพ่อมีความหมายกับเธอมากแค่ไหน ในวันที่เกือบจะสายเกินไป

        เรื่องราวของริชชี่ และพ่อของเธอ ถูกหยิบยกมารายงานโดยเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 โดยริชชี่ได้เขียนระบายความรู้สึกทั้งหมดจากหัวใจถึงพ่อ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของพ่อ ซึ่งในปีนี้เขามีอายุครบ 50 ปี มันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับเขา เพราะผู้ป่วยภาวะดาวน์ซินโดรมส่วนใหญ่มักมีอายุสั้น แต่ผู้ชายคนนี้ยังคงใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดมากมายทั้งกายและใจ

        ริชชี่ กล่าวว่า เธอไม่คู่ควรกับการเป็นลูกสาวของผู้ชายที่ยอดเยี่ยมคนนี้ เพราะเขาสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้มาก และนอกจากการบอกรักให้พ่อได้ยินแล้ว เธอก็อยากเล่าเรื่องราวของเขาให้โลกรู้ เพราะเธอภาคภูมิใจที่เขาเป็นพ่อ ผู้ซึ่งงดงามทั้งกายและใจ

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม

        "พ่อคะ หนูต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าที่หนูจะกล้าพอในการยอมรับความจริงและสู้หน้าใครหลาย ๆ คน เพราะหนูเคยเป็นคนขี้ขลาด ซึ่งพ่อสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ดีกว่าลูกสาวที่ขี้ขลาดแบบหนู พ่อสมควรได้รับสิ่งที่คนดาวน์ซินโดรมหลาย ๆ คนควรได้ นั่นก็คือ ความรัก ความเข้าใจ ความใส่ใจ รวมทั้งการเป็นที่ยอมรับเหมือนคนอื่น ๆ และหนูก็ไม่เคยมอบมันให้พ่อ พ่อสมควรได้รับอะไรมากกว่านั้น" ริชชี่ กล่าวถึงพ่อของเธอให้ทุกคนได้รับรู้

        หญิงสาวกล่าวว่า พ่อคือผู้ชายที่เข้มแข็งและกล้าหาญที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเจอมาในชีวิต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อพบเจอกับความยากลำบากมานับไม่ถ้วน เขาต้องใช้ชีวิตโดยที่มีข้อห้ามมากมาย ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่ตลอด กินยานั่น ใช้ยานี่ เข้ารับการผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ถูกเข็มเจาะร่างกายมาจนพรุน แต่เขาต่อสู้กับมันโดยแทบไม่เคยปริปากบ่น และไม่ลืมที่จะมองลูกด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่บ่งบอกว่า "พ่อไม่เป็นไร พ่อไหว"

        พ่อคือคนที่เข้มแข็งที่สุด เพราะไม่ว่าจะต้องนอนโรงพยาบาลมากี่คืน ต้องเจ็บต้องเหนื่อยมาแค่ไหน พ่อก็ยังคงยิ้มเสมอ พร้อมกับบอกว่า 'พ่อไม่กลัวหรอกลูก เพราะพ่อมีความศรัทธา' พ่อคือคนที่กล้าหาญที่สุด เพราะพ่อผ่านความเจ็บปวดมามากเหลือเกิน แต่พ่อไม่เคยกลัวที่จะเผชิญมัน ซึ่งหนูจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าหนูต้องเจอแบบพ่อ มันจะเลวร้ายขนาดไหน"

        ในช่วงเวลาหนึ่ง อาการเจ็บป่วยของพ่อริชชี่รุนแรงมาก มากจนทำให้คนเก่งที่อดทนมาตลอดชีวิต เกือบจะไม่สามารถทนกับความทรมานต่อไปได้ไหว ริชชี่ เล่าว่า ในช่วงที่พ่อเป็นหนัก พ่อแทบจะขยับขาไม่ได้เพราะเจ็บปวดหัวเข่ามาก เขาร้องไห้ออกมาเพราะความทรมาน ริชชี่ได้ยินพ่อพูดอย่างอ่อนล้าว่า "เหนื่อยเหลือเกิน" และ "เจ็บเหลือเกิน"

        ทำให้เธอร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน เพราะความสงสารพ่อ เธอไม่อยากจะกลับโรงพยาบาลเพื่อต้องไปเห็นพ่อถูกตรึงอยู่บนเตียงอย่างทรมาน เธอกล่าวว่าตัวเองไม่รู้หรอกว่าพ่อต้องเจ็บแค่ไหน แต่ในตอนนั้น เธออยากขอรับความเจ็บทุกอย่างจากพ่อมาไว้ที่ตัวเอง

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม

        "พ่อคะ มันไม่สามารถมีคำใดมาอธิบายได้เลยว่าหนูเสียใจแค่ไหนที่เคยเป็นลูกที่ห่างเหิน ไม่ดูแลพ่อให้ดีกว่านี้ หนูอยากขอโทษที่ไม่ได้พาพ่อออกไปชายหาดบ่อย ๆ หนูอยากขอโทษที่ไม่ได้พาพ่อไปกินติ่มซำร้านโปรดของพ่อให้มากกว่านี้ และหนูขอโทษที่ไม่ได้มาหาพ่อบ่อย ๆ

        สิ่งที่หนูเสียใจมากที่สุดก็คือ การที่หนูปลีกหนีตัวเองออกจากพ่อ เพราะว่าหนูยังคงเป็นเด็กมีปมคนเดิมในวันนั้น แต่สิ่งที่หนูอยากบอกคือ หนูรักพ่อเหลือเกิน รักมากกว่าที่พ่อจะรับรู้ได้ และพ่อก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิตหนูเสมอ"

        ริชชี่ เผยอีกว่า ทุกคนที่รู้จักพ่อของเธอ ต่างก็เอ็นดูเขา เพราะเขาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับทุกคน แต่มันก็มีวันที่พ่อแกล้งให้คนอื่นปวดหัว รวมทั้งยังมีวันที่เขารู้สึกแย่ ขับไล่ไสส่งทุกคนรวมทั้งลูก ซึ่งเธอเข้าใจเป็นอย่างดี พ่ออาจจะใจร้ายหรืออย่างไรก็ได้ เพราะชีวิตมันมีทั้งวันที่ดีและแย่เสมอ ดังนั้นมันไม่เป็นไร และการที่เขาแตกต่างกว่าคนอื่น มันก็ไม่เป็นไรเช่นกัน

        หญิงสาวกล่าวอีกว่า ที่เธอกลายเป็นคนเข้มแข็งและแข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะเธอได้สิ่งนั้นมาจากพ่อ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ความรักที่เธอมีให้พ่อ จะไม่มีวันลดลง และมีแต่เพิ่มขึ้น

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม

        "หนูสามารถเล่าเรื่องราวของพ่อได้ทั้งวันเลยล่ะ แต่มันคงจะยาวมากเกินไป สุขสันต์วันเกิดครบ 50 ปี นะคะ ! ขอบคุณที่เรียกหนูว่าเป็นลูกสาวหนึ่งเดียวของพ่อ เพราะหนูเป็นอยู่เสมอ หนูแกร่งและกล้าเพราะพ่อ หนูโตขึ้นจนสามารถไฝว้กับพวกขี้แกล้งได้ก็เพราะพ่อ หนูรักพ่อม้ากมากเลยล่ะ"

        โพสต์ของริชชี่ถูกแชร์ไปมากกว่า 65,000 ครั้ง และได้รับการกดไลก์มากกว่า 203,000 ครั้ง มันเป็นโพสต์ที่สะท้อนถึงความรู้สึกจากหัวใจลูกสาวคนหนึ่ง ที่รู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่ลูกที่ดีหรือสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็สามารถคิดได้ และกลับมามอบความรักให้กับคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ

        ในเมื่อเธอกลับมาเป็นสุดยอดลูกสาวของพ่อได้ คนอื่น ๆ ก็กลับมาเป็นยอดลูกชาย ยอดลูกสาว ให้กับพ่อแม่ได้เช่นกัน และการที่จะหันกลับไปกอดคุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า พร้อมกับบอกว่ารักพวกท่านมากแค่ไหน ในวันที่พวกท่านยังอยู่ตรงนี้ มันคงไม่มีคำว่าสายเกินไป

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม

พ่อเป็นดาวน์ซินโดรม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จากใจลูกสาว เคยอายพ่อเป็นดาวน์ซินโดรม จนตระหนักได้ ว่ารักพ่อมากแค่ไหน อัปเดตล่าสุด 5 มิถุนายน 2562 เวลา 18:34:06 189,290 อ่าน
TOP