สภา กทม. เห็นชอบร่างข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้น้ำในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย เริ่มในพื้นที่ 21 เขตที่มีโรงบำบัดน้ำเสีย มอบผู้ว่าฯ ดำเนินการออกประกาศ และระเบียบภายใน 240 วัน
ร่างข้อบัญญัติฯ มีข้อความที่แก้ไขจากข้อบัญญัติฯ พ.ศ.2547 ได้แก่ การเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียมี 3 ประเภท ดังนี้
โดยในส่วนของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนั้น ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย สำหรับแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียจนได้น้ำทิ้ง และประกาศกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร การกำหนดเขตพื้นที่ที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสียต้องชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย การกำหนดสถานที่รับชำระค่าธรรมเนียม และ วิธีคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ไม่อาจใช้เครื่องอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำที่ใช้ได้ ภายใน 240 วัน นับตั้งแต่ข้อบัญญัติได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 Workpoint News รายงานว่า ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่1) ประจำปีพุทธศักราช 2562 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ในวาระที่สองและสาม ตามที่นายคำรณ โกมลศุภกิจ ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ได้รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการ รวมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ เนื่องจากข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2547 หลังข้อบัญญัติเก่าใช้มาเป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว จึงสมควรปรับปรุงแก้ไขใหม่ทั้งฉบับ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2547 เป็นอัตราที่คิดตามปริมาณน้ำประปา หรือน้ำบาดาล หรือน้ำจากแหล่งอื่นที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ร้อยละ 100 เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม สมควรกำหนดค่าธรรมเนียมร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำใช้ของแหล่งกำเนิดน้ำเสียนั้น ๆ และแบ่งประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2547 เป็นอัตราที่คิดตามปริมาณน้ำประปา หรือน้ำบาดาล หรือน้ำจากแหล่งอื่นที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ร้อยละ 100 เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม สมควรกำหนดค่าธรรมเนียมร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำใช้ของแหล่งกำเนิดน้ำเสียนั้น ๆ และแบ่งประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน
ร่างข้อบัญญัติฯ มีข้อความที่แก้ไขจากข้อบัญญัติฯ พ.ศ.2547 ได้แก่ การเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียมี 3 ประเภท ดังนี้
1. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 1 มีลักษณะดังนี้ บ้านเรือนที่พักอาศัยรวมถึงอาคารซึ่งโดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยอย่างถาวรและชั่วคราว อาคารประเภทอาคารชุด คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ หอพัก รวมทั้งอาคารที่อยู่อาศัยรวม อัตราค่าธรรมเนียม 2 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร
2. แหล่งกำเนิดน้ำเสีย ประเภท 2 มีลักษณะดังนี้ หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กรระหว่างประเทศ มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โรงเรียนหรือสถานศึกษา สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 4 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร
3. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 มีลักษณะดังนี้ โรงแรม โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และสถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 8 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร
2. แหล่งกำเนิดน้ำเสีย ประเภท 2 มีลักษณะดังนี้ หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กรระหว่างประเทศ มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โรงเรียนหรือสถานศึกษา สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 4 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร
3. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 มีลักษณะดังนี้ โรงแรม โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และสถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 8 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร
โดยในส่วนของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนั้น ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย สำหรับแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียจนได้น้ำทิ้ง และประกาศกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร การกำหนดเขตพื้นที่ที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสียต้องชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย การกำหนดสถานที่รับชำระค่าธรรมเนียม และ วิธีคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ไม่อาจใช้เครื่องอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำที่ใช้ได้ ภายใน 240 วัน นับตั้งแต่ข้อบัญญัติได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก