ตำรวจกองปราบ รวบสาววัย 19 ปี ตามหมายจับคดี ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ หลังสมคบต่างชาติผิวสี ตุ๋นเหยื่อกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 สวพ.FM91 รายงานว่า ที่กองปราบปราม พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการ พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นางสาวขนิษฐา แพงมี อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 71/2562 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2562 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" และหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 106/2561 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 25261 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" ได้ริมถนนพัฒนาการ แขวงและประเวศ กรุงเทพมหานคร
พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2561 กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้แอปพลิเคชันอินสตาแกรม สนทนากับผู้เสียหาย โดยปลายทางเป็นชาวต่างชาติผิวสี คุยกันได้ประมาณ 4 เดือนจนสนิทสนมกันแล้วบอกว่า จะส่งของแล้วใส่เงินในกล่องพัสดุมา 4 แสนปอนด์ จากนั้น จะมีกระบวนการหลอกลวงต่าง ๆ เช่น ค่าเสียภาษีพัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ, ภาษีนำเข้าเงินต่างประเทศ, เงินค้ำประกันใบรับรองการฟอกเงิน, ค่าใบรับรองใช้เงินอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด และจ่ายเงินใต้โต๊ะ รวมแล้วผู้เสียหายต้องโอนทั้งหมด 7 บัญชี ไม่ซ้ำกัน 31 ครั้ง ยอดเงินทั้งหมด 2,049,500 บาท
พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2561 กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้แอปพลิเคชันอินสตาแกรม สนทนากับผู้เสียหาย โดยปลายทางเป็นชาวต่างชาติผิวสี คุยกันได้ประมาณ 4 เดือนจนสนิทสนมกันแล้วบอกว่า จะส่งของแล้วใส่เงินในกล่องพัสดุมา 4 แสนปอนด์ จากนั้น จะมีกระบวนการหลอกลวงต่าง ๆ เช่น ค่าเสียภาษีพัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ, ภาษีนำเข้าเงินต่างประเทศ, เงินค้ำประกันใบรับรองการฟอกเงิน, ค่าใบรับรองใช้เงินอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด และจ่ายเงินใต้โต๊ะ รวมแล้วผู้เสียหายต้องโอนทั้งหมด 7 บัญชี ไม่ซ้ำกัน 31 ครั้ง ยอดเงินทั้งหมด 2,049,500 บาท
เมื่อทราบว่าถูกหลอก ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ชะอำ ให้ดำเนินคดี ทางพนักงานสอบสวน ได้ส่งหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาพบ และได้ให้การยืนยันว่า น.ส.ขนิษฐา เป็นผู้ว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีรายละ 5,000 บาท โดยให้ค่าจ้างเจ้าของบัญชี 2,000 บาท จึงรวบรวมหลักฐานกระทั่งศาลออกหมายจับไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีมากบดานใน กทม. จึงกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.ขนิษฐา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ว่าจ้างเปิดบัญชีจริง เมื่อเปิดบัญชีแล้ว จะส่งทั้งสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสทางไปรษณีย์ ไปให้คนที่ติดต่อทางเฟซบุ๊ก โดยไม่รู้จักชื่อและนามสกุลจริง อีกทั้ง ไม่รู้ว่าจะมีการนำบัญชีไปหลอกลวงผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.ชะอำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน น.ส.ขนิษฐา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ว่าจ้างเปิดบัญชีจริง เมื่อเปิดบัญชีแล้ว จะส่งทั้งสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสทางไปรษณีย์ ไปให้คนที่ติดต่อทางเฟซบุ๊ก โดยไม่รู้จักชื่อและนามสกุลจริง อีกทั้ง ไม่รู้ว่าจะมีการนำบัญชีไปหลอกลวงผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.ชะอำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
