เพื่อนบ้านเผย ได้ยินเสียงเด็กร้อง ก่อนวันเผาศพแม่-ลูก ผูกคอคาบ้านเมียน้อย เชื่อที่ดินบ้านมีอาถรรพ์ พบก่อนนี้เจ้าของเก่าก็ตายในบ้านมาแล้ว 2 ครอบครัว รวม 4 ศพ
จากกรณีเหตุการณ์สลด นางสาวพรรณี ขุนนามวงษ์ ผูกคอตาย พร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ คาบ้านพักที่สามีซื้อให้ภรรยาอีกคน หลังน้อยใจสามีที่มีภรรยาหลายคน และไม่ยอมกลับบ้าน ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เผยปมสาวผูกคอตายพร้อมลูก 2 ขวบ ที่แท้น้อยใจสามีซื้อบ้านให้เมียอีกคนอยู่ติดกัน)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (8 มิถุนายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางนวล จำปาทอง แม่ของนางสาวพรรณี เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันเผาศพลูกและหลาน สามีลูกสาวไม่ได้มา ทั้งที่เขารับปากว่าจะมา โดยสามีของลูกมางานศพเมื่อวันก่อน มีการให้เงินช่วยเหลือรวมกับวันที่ให้ตอนเกิดเหตุรวม 45,000 บาท ซึ่งเขาไม่ได้มาขอโทษตน หรือขออโหสิกรรมแต่อย่างใด แม้ตอนนี้ตนจะยังโกรธที่เขาใจดำ แต่หากมาขออโหสิกรรม ตนก็ยินดี เพราะเรื่องก็ผ่านไปแล้ว
นางนวล กล่าวว่า ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต เขาไม่เคยเล่าเรื่องให้ตนฟัง ลูกสาวออกไปจากบ้านพร้อมกับลูก ตอนนั้นตนก็คิดว่าแค่ออกไปพักผ่อนคลายเครียด จน 2-3 วัน ถัดมา เจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุมาบอกว่า พบศพลูกและหลานผูกคอเสียชีวิตในบ้านแล้ว ขณะเดินทางมาเก็บของเพื่อย้ายออก
ขณะที่ นางสังเวียน ศรีมณี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า
ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตมีการขนโอ่งมาคว่ำหน้าบ้าน 2 ใบ
ซึ่งเชื่อว่าเป็นลางตามโบราณที่ว่า ทำแบบนี้ที่บ้านจะต้องมีงานศพ
และก็มีศพจริง ๆ ซึ่งหลัง 2 แม่ลูกเสียชีวิต
ตนได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากบ้านกลางดึก
และเมื่อถามกับเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ก็บอกว่าได้ยินเช่นกัน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้
ที่ดินบ้านหลังดังกล่าว ตนเชื่อว่าเป็นที่ดินอาถรรพ์
เพราะเจ้าของก่อนหน้านี้เสียชีวิตแล้ว 2 ครอบครัว โดยครอบครัวแรก
เป็นแม่และลูกได้เสียชีวิตในบ้าน 2 ศพ เจ้าของถัดมา
ก็ป่วยเป็นโรคเอดส์เสียชีวิตในบ้านอีก 2 ศพ จนล่าสุดคือ 2
แม่ลูกผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (8 มิถุนายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางนวล จำปาทอง แม่ของนางสาวพรรณี เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันเผาศพลูกและหลาน สามีลูกสาวไม่ได้มา ทั้งที่เขารับปากว่าจะมา โดยสามีของลูกมางานศพเมื่อวันก่อน มีการให้เงินช่วยเหลือรวมกับวันที่ให้ตอนเกิดเหตุรวม 45,000 บาท ซึ่งเขาไม่ได้มาขอโทษตน หรือขออโหสิกรรมแต่อย่างใด แม้ตอนนี้ตนจะยังโกรธที่เขาใจดำ แต่หากมาขออโหสิกรรม ตนก็ยินดี เพราะเรื่องก็ผ่านไปแล้ว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก