เด็กแฉสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารสุดโหด ครูปล่อยให้หัวโจกทำร้ายเพื่อนนักเรียน ฝ่ายผู้ปกครองแฉ ลูกถูกครูกับเพื่อนรุมทำร้ายจนทนไม่ได้ ต้องปีนกำแพงหนีตาย ถูกครูปรี่มาตบต่อหน้า รปภ. หมู่บ้าน
จากกรณีพ่อเข้าร้องพนักงานสอบสวน ขอให้สอบสวนหาความจริงกรณี ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือ น้องชายแดน อายุ 14 ปี ได้เข้าไปพักอาศัยอยู่กับสถาบันกวดวิชานักเรียนนายร้อย ใน จ.นครสวรรค์ แต่ต่อมาลูกกลับได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าของสถาบันกวดวิชาอ้างว่าลูกแค่ล้มจากบันได แต่พ่อยังกังขาใจ เพราะร่างกายลูกบอบช้ำอย่างมาก อีกทั้งยังมีรอยไหม้บริเวณอัณฑะของลูกชาย [อ่านข่าว : สถาบันติวนายร้อย แจงเด็ก 14 ดับ เพราะล้มฟาดบันได - พ่อคาใจ ลูกอัณฑะไหม้]
คืบหน้าวันที่ 15 มิถุนายน 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จากการสอบถามข้อมูลจาก นางศรีประไพ พันธ์มหา หนึ่งในผู้ปกครองที่เคยส่งลูกชายเข้าเรียนกับสถาบันกวดวิชาดังกล่าว พบว่าลูกอยู่ได้เพียง 5 วันเท่านั้น เพราะถูกครูและเพื่อนนักเรียนรุมทำร้ายทุกวัน จนทนไม่ไหวต้องปีนรั้วหนีออกมา ในตอนที่หนีออกมาลูกได้ปีนไปยังบ้านข้าง ๆ จนเจ้าของนึกว่าเป็นขโมย จึงแจ้ง รปภ. หมู่บ้าน เมื่อสอบถามจึงทราบสาเหตุ และได้แจ้งสถาบันดังกล่าวให้ครูมารับตัว ซึ่งตอนที่ครูมารับยังตบหน้าลูกอีก 2 ครั้ง จนทางยามเข้ามาห้าม หลังจากลูกชายแจ้งตนมาจึงรีบไปรับกลับบ้าน
ด้าน นางเบญจรัตน์ ศักดิ์โสภิษฐ์ ชาวบ้านในหมู่บ้าน เผยว่า ตนเพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน แต่ทราบว่าในหมู่บ้านมีเปิดสอนกวดวิชาทหาร ที่ผ่านมาเคยเห็นกลุ่มเด็กมาวิ่งออกกำลังกายบ้าง ซึ่งเด็กก็ดูร่าเริงดี ไม่เหมือนเก็บกด ร่างกายก็ปกติดีไม่มีแผลอะไร และตนก็ไม่เคยทราบว่าบ้านหลังที่เปิดกวดวิชามีปัญหาอะไร
ขณะที่ ด.ช.ตี๋ (นามสมมติ) ซึ่งเคยเรียนที่สถาบันดังกล่าว เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกหดหู่ใจและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตัวได้ลาออกจากสถาบันดังกล่าวไปก่อน เลยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่น้องชายแดนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในสถาบันก็มีการเขม่นกัน จนถึงขั้นมีการชกต่อยกันบ้าง ไม่เคยถึงขั้นยกพวกรุมตีกัน แต่จะมีนักเรียนหัวโจกอยู่ 3 คน ที่สนิทกับเจ้าของสถาบัน และมักชอบใช้ความรุนแรงมาชกต่อยเพื่อนคนอื่น ๆ
ที่ผ่านมาพบว่ามีหลายครั้งที่กลุ่มหัวโจกจะไปขออนุญาตเจ้าของสถาบัน เพื่อไปหาเรื่องรุมทำร้ายเพื่อนที่ไม่ชอบหน้า ซึ่งทางเจ้าของสถาบันก็อนุญาตให้ทำได้ และตนก็รับไม่ได้กับเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายเอี่ยม (นามสมมติ) รปภ. ของหมู่บ้านที่ติดกับที่เกิดเหตุ ยอมรับว่า ตนคือคนที่ไปพบเด็กที่ปีนกำแพงหนี เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาราว 20.00 น. โดยหลังจากได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ก็พบเด็กผู้ชายกำลังปีนกำแพงจากบ้านหลังหนึ่งมายังอีกหลัง ด้านหลังสะพายกระเป๋าสัมภาระมาด้วย จากนั้นตนได้เข้าไปสอบถามจนทราบว่าเด็กปีนหนีออกมาจากบ้านติวเตอร์ หนีครู เพราะถูกทำร้าย ถูกซ้อม โดยเด็กยังถอดเสื้อให้ตนดู พบว่ามีรอยช้ำแดงตามตัว 2-3 แห่ง และพบแผลที่สันจมูก คาดว่าถูกชกมา
เด็กยอมรับว่านอกจากถูกทำโทษ ก็ยังถูกเพื่อนนักเรียนทำร้าย ส่วนสาเหตุที่ไม่หนีออกทางหมู่บ้านของตัวเอง เพราะหากออกหน้าหมู่บ้านก็จะมีนักเรียนคนอื่นเห็น ซึ่งตนก็ได้พาตัวเด็กส่งตามขั้นตอน พร้อมแจ้งตำรวจไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อพาเด็กออกมาถึงหน้าหมู่บ้านก็พบกับนายณัฐพล เจ้าของบ้านที่เปิดติวเตอร์ ได้มายืนรออยู่พร้อมเด็กอีก 4-5 คน ซึ่งนายณัฐพลก็รีบปรี่เข้ามาตบหน้าเด็กคนนี้ต่อหน้าตน ถามเด็กว่าหนีทำไม ซึ่งตนก็พยายามช่วยห้ามและกันตัวออกมา จากนั้นจึงค่อยพาไปที่สถานีตำรวจด้วยกันเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ยอมรับว่าส่วนตัวคิดว่าการทำแบบนี้รุนแรงเกินไป เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เชื่อว่าเด็กน่าจะถูกซ้อมมาจริง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
