เพื่อไทยและพรรคพันธมิตร รวม 7 พรรค เตรียมยื่นญัตติ อภิปรายกระบวนการสรรหา ส.ว. โดยเฉพาะปมกรรมการสรรหา 6 คน กลับมาเป็น ส.ว. เอง และกรณีสูตรคิดคำนวณ ส.ส. ให้ 10 พรรคเล็ก

จนสังคมมีข้อสงสัยถึงกระบวนการสรรหาและรายชื่อ ส.ว. ที่ออกมา ว่าการเลือก ส.ว. มีปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เนื่องจากมีกรรมการสรรหา 6 คน ได้กลับมาเป็น ส.ส. ด้วย ซึ่งหากกระบวนการสรรหา ส.ว. มีปัญหา ก็จะส่งผลให้การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
![7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน 7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน]()
![7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน 7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน]()
ขณะที่ฝ่ายค้านยังเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส. ที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านได้ ส.ส. ลดลง โดยเฉพาะกรณีการคิดคำนวณ ส.ส. ให้ 10 พรรคเล็ก ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าไม่ชอบธรรม
อีกด้านหนึ่ง ส.ส. ฝ่ายค้าน จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะติดตามคำร้อง ตรวจสอบ 41 ส.ส. ถือหุ้นธุรกิจสื่อซึ่งได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว โดยคาดหวังว่า หากมี ส.ส. ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คล้ายกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็จะส่งผลกระทบต่อจำนวน ส.ส. ของรัฐบาลในสภา ทำให้มีเสียงข้างน้อยได้
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร 7 พรรค ได้แก่ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย ยืนยันว่า นอกจากงานในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังจะทำงานนอกสภาควบคู่กัน โดยจะให้ความเห็นเพื่อสร้างความเข้าใจด้านกฎหมาย ชี้ให้เห็นถึงปัญหาคุณสมบัตินายกฯ และที่มา ส.ว. และเตรียมอภิปรายในวันที่รัฐบาลจะเสนอนโยบายต่อรัฐสภาเอาไว้แล้ว
![7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน 7 พรรคขั้วเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วน]()
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ภาพจาก ไทยพีบีเอส
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เตรียมเสนอญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ เพื่อตรวจสอบกรณีการเปิดเผยรายชื่อกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. และที่มาของ ส.ว. 250 คน ด้วยเห็นว่าการสรรหามีข้อพิรุธ โดยเฉพาะการที่ไม่ปรากฏคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ในราชกิจจานุเบกษา
จนสังคมมีข้อสงสัยถึงกระบวนการสรรหาและรายชื่อ ส.ว. ที่ออกมา ว่าการเลือก ส.ว. มีปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เนื่องจากมีกรรมการสรรหา 6 คน ได้กลับมาเป็น ส.ส. ด้วย ซึ่งหากกระบวนการสรรหา ส.ว. มีปัญหา ก็จะส่งผลให้การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ภาพจาก ไทยพีบีเอส
โดยเบื้องต้นได้หารือกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย และมีการเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญ เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาและใช้อำนาจเรียกบุคคลในรัฐบาล คสช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว พรรคเพื่อไทยและ 7 พรรคพันธมิตร ได้มีมติตั้งวิปฝ่ายค้าน กว่า 30 คน และคณะทำงานกับประชาชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมนอกสภา โดยพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค จะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิปฝ่ายค้าน เพื่อไม่ให้ ส.ส. แต่ละพรรคแตกแถว และสร้างความเป็นเอกภาพ พร้อมกับที่พรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค โดยเปลี่ยน พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. ออกจากตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกผู้นำฝ่ายค้านในสภา
นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว พรรคเพื่อไทยและ 7 พรรคพันธมิตร ได้มีมติตั้งวิปฝ่ายค้าน กว่า 30 คน และคณะทำงานกับประชาชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมนอกสภา โดยพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค จะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิปฝ่ายค้าน เพื่อไม่ให้ ส.ส. แต่ละพรรคแตกแถว และสร้างความเป็นเอกภาพ พร้อมกับที่พรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค โดยเปลี่ยน พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. ออกจากตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกผู้นำฝ่ายค้านในสภา

ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ขณะที่ฝ่ายค้านยังเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส. ที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านได้ ส.ส. ลดลง โดยเฉพาะกรณีการคิดคำนวณ ส.ส. ให้ 10 พรรคเล็ก ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าไม่ชอบธรรม
อีกด้านหนึ่ง ส.ส. ฝ่ายค้าน จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะติดตามคำร้อง ตรวจสอบ 41 ส.ส. ถือหุ้นธุรกิจสื่อซึ่งได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว โดยคาดหวังว่า หากมี ส.ส. ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คล้ายกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็จะส่งผลกระทบต่อจำนวน ส.ส. ของรัฐบาลในสภา ทำให้มีเสียงข้างน้อยได้
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร 7 พรรค ได้แก่ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย ยืนยันว่า นอกจากงานในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังจะทำงานนอกสภาควบคู่กัน โดยจะให้ความเห็นเพื่อสร้างความเข้าใจด้านกฎหมาย ชี้ให้เห็นถึงปัญหาคุณสมบัตินายกฯ และที่มา ส.ว. และเตรียมอภิปรายในวันที่รัฐบาลจะเสนอนโยบายต่อรัฐสภาเอาไว้แล้ว

ภาพจาก ไทยพีบีเอส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก