พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ปลุกดีเอ็นเอชาวอาเซียน จับมือสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค และก้าวไปข้างหน้าเพื่อวางรากฐานให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน ตอนหนึ่งว่า เนื้อร้องจากเพลงดิอาเซียนเวย์ (The ASEAN Way) ท่อนที่ว่า We dare to dream, we care to share คือ เรากล้าฝัน เรายินดีแบ่งปัน สะท้อนถึงเส้นทางตลอด 5 ทศวรรษของอาเซียนได้ดีที่สุด เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 52 ปีที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ที่พระราชวังสราญรมย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน คงมีน้อยคนที่จะคาดคิดว่า ด้วยความกล้าที่จะฝันในวันนั้น อาเซียนพัฒนาจากสมาคมเล็ก ๆ ของ 5 ชาติสู่ประชาคมที่เหนียวแน่นของ 10 ประเทศ และด้วยความกล้าที่จะฝันจากรุ่นสู่รุ่น ส่งผลให้เติบโตเป็นประชาคมที่เป็นปึกแผ่น มีสันติภาพและมั่นคง มีกฎกติกา เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก และมีความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน
โดยการประชุมครั้งนี้
ผู้นำอาเซียนจะร่วมกันประกาศการเปิดตัวคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน
ภายใต้โครงการจัดตั้งระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉิน
สำหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของอาเซียน (DELSA)
และการยกระดับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน
เป็นองค์กรของอาเซียนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของอาเซียนในการบริหารจัดการผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ส่วนทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ยุคนี้ถือเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเปลี่ยนแปลงชีวิตมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำลายระบบนิเวศให้เสื่อมโทรม หากไม่มีอาเซียน เราจะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร ตนเชื่อมั่นว่าพลังของอาเซียนที่เข้มแข็ง จะช่วยให้อาเซียนก้าวผ่านทุกความท้าทายไปได้
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()
![พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา]()

วันที่ 23 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์ Royal Thai Government ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรี ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ 34 เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้อง Crystal Hall โรงแรมดิ
แอทธินี กรุงเทพฯ ซึ่งครั้งนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน ตอนหนึ่งว่า เนื้อร้องจากเพลงดิอาเซียนเวย์ (The ASEAN Way) ท่อนที่ว่า We dare to dream, we care to share คือ เรากล้าฝัน เรายินดีแบ่งปัน สะท้อนถึงเส้นทางตลอด 5 ทศวรรษของอาเซียนได้ดีที่สุด เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 52 ปีที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ที่พระราชวังสราญรมย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน คงมีน้อยคนที่จะคาดคิดว่า ด้วยความกล้าที่จะฝันในวันนั้น อาเซียนพัฒนาจากสมาคมเล็ก ๆ ของ 5 ชาติสู่ประชาคมที่เหนียวแน่นของ 10 ประเทศ และด้วยความกล้าที่จะฝันจากรุ่นสู่รุ่น ส่งผลให้เติบโตเป็นประชาคมที่เป็นปึกแผ่น มีสันติภาพและมั่นคง มีกฎกติกา เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก และมีความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน
ประชาคมอาเซียนร่วมทุกข์
ร่วมสุข ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคสงครามเย็นจนถึงปัจจุบัน
ในวันที่ประสบกับวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจในเอเชีย อาเซียนคือพลังสำคัญ
ที่จับมือกับมิตรประเทศฟันฝ่าอุปสรรค
และสามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
รวมถึงวันที่พบเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว
คลื่นยักษ์สึนามิ หรือพายุไซโคลน ชาวอาเซียนก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน
หากแต่จะยื่นมือช่วยเหลือกัน ด้วยจิตสำนึกของการเป็นประชาคมเดียวกัน

ส่วนทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ยุคนี้ถือเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเปลี่ยนแปลงชีวิตมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำลายระบบนิเวศให้เสื่อมโทรม หากไม่มีอาเซียน เราจะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร ตนเชื่อมั่นว่าพลังของอาเซียนที่เข้มแข็ง จะช่วยให้อาเซียนก้าวผ่านทุกความท้าทายไปได้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.
ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
"ประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจะเกิดขึ้นได้
ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกประเทศสมาชิก ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
ภาคประชาสังคม และที่สำคัญที่สุด เจ้าของประชาคมอาเซียน
นั่นคือประชาชนทุกคน ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ เชิญชวนทุกท่านทั้งในห้องนี้
และพวกเราชาวอาเซียนทุกท่าน ปลุกดีเอ็นเอความเป็นอาเซียนในตัว
และร่วมแรงร่วมใจ จับมือกันให้เข้มแข็ง และก้าวไปข้างหน้า
เพื่อวางรากฐานให้ประชาคมอาเซียนมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต
โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกมิติโดยแท้จริง"






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก