หญิงตายไป 27 นาที ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เผยความรู้สึกหลังโลกดับ...สวรรค์มีจริง

          หญิงอเมริกัน ตายแล้วฟื้น หัวใจวายเฉียบพลัน แต่ถูกกู้ชีพขึ้นมาได้ รวมเวลาไร้ชีพจร 27 นาที หญิงตายแล้วฟื้น เผยตอนโลกดับไป ได้เบิกเนตรและได้รู้ชัด สวรรค์มีจริง


          แม้ว่าจะมีการคาดเดามากมายทั้งทางศาสนาและทางวิทยาศาสตร์ แต่คงไม่มีใครให้คำตอบที่แท้จริงได้ เพราะในช่วงเวลาที่คนเรารับรู้ความจริงเรื่องนี้ ก็ไม่มีชีวิตหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้แล้ว ดังนั้น คงยากที่คนตายจะย้อนกลับมาบอกคนเป็นว่ามันเป็นอย่างไร...
          แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้ผ่านเข้าสู่โลกมรณะในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วสามารถหวนคืนกลับมาได้ และพวกเขาก็ได้เล่าถึงสิ่งที่พบเห็น เช่นเดียวกับผู้หญิงอเมริกันคนนี้

          ทีนา ไฮนส์ ได้พบเจอกับการเจ็บป่วยที่อันตรายถึงชีวิต และได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่สามารถย้อนกลับมาได้ ซึ่งสิ่งที่เธอได้พบเห็นในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น มันเป็นอะไรที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีอยู่จริง 

          เรื่องราวของ ทีนา ได้รับการหยิบยกมารายงานโดยเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 สำหรับคนที่รู้จักทีนาแล้ว ทุกคนคงคิดว่าไม่มีโรคร้ายอะไรมาเยือนแม่ลูกสี่คนนี้ได้ง่าย ๆ ทีนาอาศัยอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์หุบเขาในนครฟีนิกซ์ เมืองเอกของรัฐแอริโซนา เธอเป็นคนที่สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอด แทบไม่เคยเจ็บไข้ อีกทั้งยังชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมโปรดของเธอคือ ปีนเขา

          ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ทีนา กับไบรอัน สามีของเธอ ได้จัดแจงเตรียมออกจากบ้านเพื่อไปปีนเขาด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้น...

          อยู่ดี ๆ ทีนาก็เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน (Cardiac Arrest) เธอเป็นลมหมดสติ และร่างทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น ไบรอันรุดเข้ามาดูอาการของภรรยา และพบว่าท่าไม่ดีแล้ว มันไม่ใช่การเป็นลมธรรมดาแน่นอน เพราะผิวหนังของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง และหัวใจของเธอหยุดเต้นไปแล้ว ไบรอันรีบโทร. เรียกรถพยาบาล แล้วได้จัดการทำ CPR ให้กับภรรยาทันที ซึ่งหลังจากทำไปได้ไม่นาน ชีพจรของทีนาก็กลับมาอีกครั้ง แต่ก็หายไปอีก ไบรอันกู้ขึ้นมาได้อีก แล้วก็หยุดไปอีกรอบ

          หลังจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาถึง พวกเขาเร่งนำตัวเธอมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลในทันที ซึ่งมันเป็นการเดินทางที่ระทึกมาก เพราะหัวใจทีนาหยุดเต้นไปหลายครั้ง และเจ้าหน้าที่ต่างก็พยายามช่วยชีวิตเธออย่างสุดความสามารถ การเดินทางครั้งนั้นคือช่วงเวลาที่ความเป็นและความตายแทบแยกจากกันไม่ออก หัวใจของทีนาหยุดเต้นไปแล้ว 6 ครั้ง ระยะเวลาที่ชีพจรของเธอหายไป สามารถนับรวมได้ทั้งหมด 27 นาที ด้วยกัน โดยครอบครัวของเธอเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก เพราะทีนาได้จากพวกเขาไปแล้วถึง 6 ครั้ง


          เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ทีนายังคงไม่ได้สติ เธอไม่สามารถหายใจเองได้ และต้องใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มรู้สึกตัว เธอขยับมือทำท่าขอให้ครอบครัวหาอะไรบางอย่างมาให้เธอเขียน พวกเขาจึงยัดปากกาใส่มือเธอและให้เธอเขียนลงบนสมุด

          ด้วยความที่เธอยังคงสะลึมสะลือ ไม่มีสติครบ 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่เธอเขียนออกมาจึงมีลักษณะเป็นข้อความขยุกขยุยแทบอ่านไม่ออก แต่ในเวลาต่อมา หลังจากที่เธออาการดีขึ้นแล้ว เธอก็บอกทุกคนว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนออกไปคือคำว่า "it's real" หรือแปลได้ว่า "มันเป็นเรื่องจริง" ซึ่งเธอหมายถึง สวรรค์
          ในช่วงระยะเวลา 27 นาที ที่ทีนาจากโลกนี้ไป เธอก็ได้รับรู้ว่าสวรรค์มีอยู่จริง เพราะเธอได้ไปเห็นมันมากับตาของตัวเอง โดยทีนา เล่าว่า ตอนนั้นเธอพบเห็นบุคคลหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าประตูสีดำ ด้านหลังเป็นแสงสว่างที่เหลืองอร่าม ซึ่งบุคคลผู้นั้นคือ พระเยซู เมื่อครอบครัวสอบถามไปว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทีนาก็น้ำตาไหล พยักหน้าตอบจากเตียงคนไข้ว่ามันเป็นเรื่องจริง

          "มันคือเรื่องจริง มันเหมือนจริงมาก สีสันบนนั้นช่างสวยงามสดใสเหลือเกิน" ทีนา เล่าถึงประสบการณ์ไปเยือนสวรรค์ในช่วงเวลาสั้น ๆ
          รายงานระบุว่า ตามสถิติแล้ว ผู้ที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หรือหัวใจวายเฉียบพลันขณะที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล หรือไม่ได้อยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ พบว่ามีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ยากแก่การคาดเดาและอันตรายร้ายแรงมาก แต่การทำ CPR สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยเอาไว้ได้มาก และทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลง

          สำหรับกรณีของทีนานั้น การหัวใจวายเฉียบพลันนับได้ว่าเป็นปริศนาที่ยากจะหาสาเหตุ เพราะเธอไม่เคยมีประวัติป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ไม่เคยถูกไฟฟ้าช็อต หรือพบเจอกับกิจกรรมใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อหัวใจ หรือทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ 

          แม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าอะไรคือสาเหตุของการเจ็บป่วยเฉียบพลันของทีนา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอรอดชีวิต ครอบครัวของเธอต่างก็โล่งใจ และพวกเขาก็เชื่อแล้วว่าปาฏิหาริย์มีอยู่จริง สวรรค์ก็มีอยู่จริงเช่นกัน