ศาลยืนจำคุก 114 ปี เณรคำ ฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน ใช้เงินญาติโยมนั่งเครื่องบินเจ็ต กินเที่ยวหรูหรา แต่รับโทษจริงตามกฎหมายแค่ 20 ปี
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 - 27 มิถุนายน 2557 จำเลยได้อาศัยความเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาและความศรัทธาเลื่อมใสของประชาชน โดยการหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชนอ้างว่า เป็นประธานสงฆ์ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เเละโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ให้ประชาชน นำเงินและสิ่งของมีค่ามาร่วมทำบุญก่อสร้างพระแก้วมรกต จำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ศาสนสถานต่าง ๆ จนมีผู้หลงเชื่อ มอบเงินสด โอนเงิน ทรัพย์สิน เป็นเงินทั้งสิ้น 28,649,553 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์เสร็จสิ้น ได้อนุญาตให้อดีตหลวงปู่เณรคำถอนอุทธรณ์ และตัดสินโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 รวม 29 กระทง กระทงละ 3 ปี รวม 87 ปี, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) เป็นเวลา 3 ปี และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) (2) ,60 รวม 12 กระทง กระทงละ 2 ปี เป็นเวลา 24 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี
ภาพจาก อีจัน
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 อีจัน รายงานว่า ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
นัดฟังคำสั่ง - คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4
เป็นโจทก์ฟ้องนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฟฉัตติโก
หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 - 27 มิถุนายน 2557 จำเลยได้อาศัยความเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาและความศรัทธาเลื่อมใสของประชาชน โดยการหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชนอ้างว่า เป็นประธานสงฆ์ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เเละโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ให้ประชาชน นำเงินและสิ่งของมีค่ามาร่วมทำบุญก่อสร้างพระแก้วมรกต จำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ศาสนสถานต่าง ๆ จนมีผู้หลงเชื่อ มอบเงินสด โอนเงิน ทรัพย์สิน เป็นเงินทั้งสิ้น 28,649,553 บาท
ซึ่งคดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาไป เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ว่า
ให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน รวม 87 ปี, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นเวลา 3 ปี
และความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ เป็นเวลา 24
ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี จากนั้น เณรคำ ได้ยื่นอุทธรณ์คดี
แต่ระหว่างกระบวนการอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 นายวิรพล จำเลย
ได้ยื่นคำขอถอนอุทธรณ์คดีเนื่องจากไม่ติดใจสู้คดีอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์เสร็จสิ้น ได้อนุญาตให้อดีตหลวงปู่เณรคำถอนอุทธรณ์ และตัดสินโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 รวม 29 กระทง กระทงละ 3 ปี รวม 87 ปี, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) เป็นเวลา 3 ปี และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) (2) ,60 รวม 12 กระทง กระทงละ 2 ปี เป็นเวลา 24 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี
แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกได้สูงสุดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 91 (2) เป็นจำคุก 20 ปี พร้อมชดใช้เงินให้ผู้เสียหายตามความเป็นจริง
29 ราย
ภาพจาก อีจัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก