หนุ่มป่วย-ช็อกบนเครื่องบิน โชคดีที่ได้เจอหมอหนุ่มสุดหล่อ ช่วยจนรอดมาได้

 

               หนุ่มป่วยหนัก-ช็อกบนเครื่องบิน เคราะห์ดีที่ได้เจอหมอหนุ่มสุดหล่อคนนี้ ช่วยจนรอดมาได้ แถมยังช่วยดูแลทั้งเส้นทาง ทำซาบซึ้งในสิ่งที่ได้รับ


               หนึ่งในฝันร้ายที่ไม่ว่าใครก็ไม่ขอเผชิญ ก็คือการล้มป่วยขณะอยู่บนเครื่องบิน หากเป็นแค่อาการท้องเสียหรือเวียนศีรษะเล็กน้อยก็ยังพอว่า แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำต้องได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างเร่งด่วน ก็เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าบนเครื่องบินจะมีอุปกรณ์การแพทย์สำหรับรับมือเหตุเฉพาะหน้า แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ทำการรักษาได้ทุกโรค แถมพวกเขายังไม่สามารถนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้ในทันที

               หนึ่งในทางเลือกที่มี ก็คือการประกาศขอความช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่บนเครื่องบิน ซึ่งหากโชคดีพอ ก็อาจจะได้เจอคุณหมอที่พร้อมให้การช่วยเหลือ เช่นเดียวกับกรณีของ แมตต์ ฟาราโก หนุ่มอเมริกันวัย 26 ปี ที่อยู่ ๆ ก็เกิดช็อกจากอาการแพ้อย่างรุนแรง หลังเครื่องบินออกเดินทางไป 2 ชั่วโมง และเขาก็รอดชีวิตมาได้ ด้วยความช่วยเหลือจาก ดร.มิคาอิล วาร์ชาฟสกี้ หรือ ดร.ไมค์ หมอหนุ่มคนดัง ซึ่งบังเอิญเป็นเพื่อนร่วมทางในเที่ยวบินนั้นพอดี

               "ผมอยู่บนเครื่อง ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย แต่ผมรู้สึกว่ามือบวม ผมบอกลูกเรือว่ารู้สึกไม่ดี ลูกเรือบนเครื่องบินเลยประกาศหาแพทย์ที่อยู่บนเครื่อง และหมอไมค์ก็ก้าวเข้ามา" แมตต์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

               ตอนนั้นเองที่แมตต์เริ่มรู้สึกว่าคอเริ่มตีบตัน เขาหายใจได้ลำบากและเกิดอาการช็อกจากการแพ้รุนแรง แต่นับเป็นโชคดีที่ ดร.ไมค์ สามารถนำอุปกรณ์และยาต่าง ๆ ที่มีอยู่บนเครื่องบินมาช่วยชีวิตแมตต์ได้ แถมยังช่วยเฝ้าดูอาการของเขาตลอดทั้งเส้นทาง จนสร้างความตื้นตันใจและทำให้ชายคนนี้รู้สึกขอบคุณอย่างที่สุด
              ทั้งนี้ ต่อมา ดร.ไมค์ ได้เผยว่า เขาเดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมกับทีมงานองค์กร America's Voices ในอิสราเอล เพื่อร่วมแคมเปญสร้างความเข้าใจอันดีเรื่องประเทศแห่งนี้ กับชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าเคสของแมตต์จัดว่าเป็นสถานการณ์คับขันอย่างแท้จริง

              "เราบินอยู่เหนือมหาสมุทร พร้อมคนไข้ที่อยู่ในสถานการณ์มีภัยคุกคามถึงชีวิต" ดร.ไมค์ กล่าว

              ดร.ไมค์ ยังเผยอีกว่า เครื่องบินลำนั้นไม่มียาอีพิเพน แต่โชคดีที่สายการบินเดลตาได้จัดเตรียมอุปกรณ์พยุงชีพที่ทันสมัยไว้ พวกเขายังมี อิพิเนฟริน (Epinephrine) ที่นำมาเป็นยาในกรณีฉุกเฉิน สำหรับรักษาอาการแพ้รุนแรงได้เช่นกัน ซึ่งเขาต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปรับโดสของยา และฉีดยานี้เข้าที่กล้ามเนื้อขาของผู้ป่วย แน่นอนว่าการฉีดยาเช่นนี้ทำให้ผู้ป่วยเจ็บแน่ ๆ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้นแล้ว

              หากสถานการณ์แย่ลง เขาก็จำเป็นต้องผ่าเปิดทางเดินหายใจฉุกเฉินให้ผู้ป่วย แต่โชคดีที่ยาได้ผล ช่องทางเดินหายใจของแมตต์เปิดโล่งจนหายใจเองได้ ซึ่งเขาก็ได้เฝ้าดูหัวใจและการหายใจของผู้ป่วย "มันเยี่ยมมากที่ได้เห็นอาการของเขากลับมาเป็นปกติ" ดร.ไมค์ กล่าว