x close

ปอท. เชือดมือดี 13 ราย แชร์ข่าวปลอม บิ๊กตำรวจ อยู่เบื้องหลังกระทืบจ่านิว

           ปอท. แถลงข่าวดำเนินคดี 13 ผู้ต้องหาแชร์ข่าวเท็จ ตำรวจอยู่เบื้องหลังกระทืบจ่านิว อีก 4 รายยังปฏิเสธเป็นเจ้าของบัญชีอวตาร ล่าสุด ทราบตัวต้นตอคนปล่อยข่าวแล้ว เตรียมจับกุม

แชร์ข่าวปลอม คดีจ่านิว


          เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต. ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กองกำกับการ 3 บก.ปอท. และ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงการดำเนินคดีกับผู้ที่ส่งต่อข้อความทางโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่า พล.ต.อ. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเสียหาย

          พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากมีการแชร์ข้อความอันเป็นเท็จโดยการกล่าวหาไปยัง รอง ผบ.ตร. ผู้บังคับบัญชาระดับสูงนั้น บก.ปอท. จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่ามีผู้กระทำความผิด จำนวน 13 คน พฤติการณ์คือแชร์ข้อความเท่านั้น ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่มาพบพนักงานสอบสวน 8 คน ส่วนอีก 5 คน จะเดินทางเข้าทราบข้อกล่าวหาภายใน 1 สัปดาห์นี้

แชร์ข่าวปลอม คดีจ่านิว

          นอกจากนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหายังพบว่าใน 13 บัญชีที่กระทำความผิดนั้น มีจำนวน 3-4 บัญชี เป็นบัญชีอวตารหรือบัญชีปลอม ไม่มีการแสดงตัวตน เจ้าหน้าที่จึงสืบขยายผลจนพบตัวจริงว่าเป็นบัญชีของใคร ซึ่งทั้ง 8 คน ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าแชร์ข่าวดังกล่าวจริง แต่ไม่ทราบว่าข่าวนั้นเป็นข่าวปลอมหรือมีที่มาจากไหน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดไม่รู้จักกัน มีภูมิลำเนาทั้ง กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด

          โดยผู้ต้องหาแต่ละคน เป็นผู้สนใจในเรื่องการเมืองแบบเดียวกัน จึงได้มีการแชร์ข่าวส่งต่อไปยังเพื่อน ๆ และคนรู้จัก ไม่ใช่ขบวนการ นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติไม่พบว่าทั้ง 13 คนเคยมีประวัติการแชร์ข่าวปลอมหรือมีการร่วมขบวนการแต่อย่างใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าใครเป็นต้นตอ ต้นขั้วคอนเทนต์ อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นพบว่ามี 1 คน

แชร์ข่าวปลอม คดีจ่านิว

          อย่างไรก็ตาม สำหรับการแชร์ข่าวปลอมในครั้งนี้มีเพียง 2 ประเด็น คือ แชร์เพียงสร้างผลประโยชน์ สร้างยอดไลก์ ยอดแชร์ให้กับตัวเอง และแชร์เพื่อสร้างความเกลียดชังและความสับสน โดยจะใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือข้าราชการมากล่าวอ้าง กรณีดังกล่าวเป็นการแชร์เพื่อให้เกิดความสับสน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงสามารถดำเนินคดีกับคนที่แชร์ข่าวใส่ร้าย รอง ผบ.ตร. ได้รวดเร็ว แต่คดีจ่านิว ยังล่าช้าจับตัวคนร้ายยังไม่ได้ พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้คดีของจ่านิว มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำไปแล้ว 10 ปาก พร้อมทั้งไล่กล้องวงจรปิด ยอมรับว่าใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง คนร้ายมีความชำนาญใช้ช่วงการจราจรติดขัดในการหลบหนี ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่คดีการจับคนแชร์ข่าว บก.ปอท. มีพยานหลักฐานชัดเจน จึงสามารถดำเนินคดีได้รวดเร็วกว่า




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปอท. เชือดมือดี 13 ราย แชร์ข่าวปลอม บิ๊กตำรวจ อยู่เบื้องหลังกระทืบจ่านิว อัปเดตล่าสุด 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 14:50:19 3,465 อ่าน
TOP