ชายผู้รักสันโดษ ถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กินร่าง หลังตำรวจพบเศษกระดูกในอุจจาระ

        ชายชาวอเมริกันวัย 57 ปี ผู้รักสันโดษ ถูกสุนัขสัตว์เลี้ยงกัดกินร่าง หลังตำรวจพบเศษกระดูกในอุจจาระ ตรวจดีเอ็นตรงกัน


       เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านพักของเฟรดดี้ในเบื้องต้น พบสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้จำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบตัวเขา จึงได้ออกค้นหา หลังจากนั้นในวันที่ 9 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ก็กลับไปที่บ้านของเขาอีกครั้ง เพื่อสืบหาหลักฐานการหายตัวไป ทว่าสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปใกล้บริเวณตัวบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามใช้โดรนบินตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบร่องรอยเช่นเดิม

       วันต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นบัญชีเฟรดดี้ว่าเป็นบุคคลสูญหาย ขณะที่ทางด้านครอบครัวและเพื่อนบ้านรู้สึกติดใจการหายตัวไปของเขา ชี้ว่า แม้ว่าเขาจะรักสันโดษ แต่เป็นเรื่องที่แปลกมากที่เขาจะทิ้งสุนัขแสนรักไปได้ จึงขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ออกติดตามค้นหาต่อไป

       จากคำให้การของทางครอบครัว ระบุว่า เฟรดดี้มักจะใส่เสื้อผ้าแต่ชุดเดิม ๆ เพียงไม่กี่ชุด มั่นใจว่าเศษผ้าที่พบเป็นของเขา ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า เฟรดดี้อาจจะถูกฝูงสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้กัดกินร่าง ระหว่างนั้นก็ได้ส่งตัวอย่างหลักฐานทั้งหมดไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวตน

       กระทั่งวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผลการตรวจพิสูจน์ก็ออกมา ปรากฏว่า เศษกระดูกที่พบในอุจจาระของสุนัขเป็นกระดูกของมนุษย์จริง และเมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับทางครอบครัว ผลยืนยันว่า เป็นกระดูกของเฟรดดี้

       อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า ฝูงสุนัขของเฟรดดี้ทำร้ายและฆ่าเจ้านายของมันเองหรือไม่ เนื่องจากระหว่างการสอบสวนพบว่า เฟรดดี้มีโรคประจำตัวที่ค่อนข้างหนัก มีความเป็นไปได้ที่เขาเกิดอาการกำเริบและเสียชีวิต ก่อนที่จะถูกสุนัขกัดกินแทะร่าง

       ส่วนฝูงสุนัขของเฟรดดี้ ภายหลังจากปิดคดี ทั้งหมดถูกนำไปปลิดชีพทิ้ง เนื่องจากพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและรุนแรงของพวกมัน และยังมีความเป็นไปได้อยู่ว่า พวกมันอาจจะเป็นฆาตกรฆ่าเจ้าของของพวกมันเอง