สุดารัตน์ แถลงจุดยืนพรรคเพื่อไทยยุคใหม่ ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ คืน ความอยู่ดีกินดี-คืนประชาธิปไตยฯ-คืนศักดิ์ศรีของคนไทย ส่งเสริมประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบรัฐบาล พร้อมส่งเสริมคนรุ่นใหม่เข้ามาส่วนร่วมมากขึ้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันพรรคเพื่อไทยมีความท้าทาย 3 สิ่ง ที่ต้องปรับตัว อย่างแรกคือความท้าทางต่อการเมืองที่มีการโกง ใช้กติกาอย่างไม่เป็นธรรม และการเป็นประชาธิปไตยที่จอมปลอม อย่างที่สองคือ ความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลมีการบริหารเศรษฐกิจตกต่ำ และความท้าทายสุดท้ายคือความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี
วันนี้พรรคเพื่อไทยจึงต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับ 3
ความท้าทายให้ได้เพื่อความแข็งในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป โดยมีพันธกิจ
3 ประการคือ ปรับกระบวนทรรศน์ ปรับกระบวนคน
และการสร้างกลไกยุติความขัดแย้งในบ้านเมือง
โดยต่อจากนี้พรรคเพื่อไทยยุคใหม่จะต้องเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างนักวิชาการ และประชาชน ในการช่วยกันพัฒนาประเทศ
เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่คือ "ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ"
โดยจะนำประชาชนให้มีส่วนร่วมในสภาให้มากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวสื่อสารให้ประชาชนสามารถเสนอปัญหาความคิด และร่วมติดตามการทำงานของรัฐบาลกับทีมงานเพื่อไทย นอกจากนี้จะมีการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยทั้งหมดระเร่งดำเนินการให้เสร็จใน 2 สัปดาห์
คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวสรุปว่า จากที่กล่าวมาทีมเพื่อไทยยุคใหม่ จะทำงานเพื่อให้บรรลุ 3 เป้าหมายคือ
1. คืนความอยู่ดีกินดี และความสงบสุข ให้แก่คนไทย และประเทศไทย
2. คืนประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
3. คืนศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไทยให้กลับมาทัดเทียมกับโลกอีกครั้ง เหมือนในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
ได้แถลงในการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2562
ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทยว่า
เดือนนี้มีความสำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยในวันที่
4 กรกฎาคม 2541 ที่ผ่านมาพรรคได้สืบทอดเจตนารมณ์ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร
โดยมีเป้าหมายคือให้คนไทยทุกคนหลุดพ้นจากความยากจน
และต้องการให้ประเทศไทยเจริญทัดเทียมกับอารยประเทศ
ซึ่งเป็นการส่งต่ออุดมการณ์มายังพรรคเพื่อไทยในวันนี้
โดยพรรคเพื่อไทยยุคใหม่ทุกคนยังคงเป้าหมายทั้งหมดเอาไว้แม้สถานการณ์ของพรรคในขณะนี้ยังคงหนักหน่วงยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในการต่อสู้
21 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในปัจจุบันพรรคเพื่อไทยมีความท้าทาย 3 สิ่ง ที่ต้องปรับตัว อย่างแรกคือความท้าทางต่อการเมืองที่มีการโกง ใช้กติกาอย่างไม่เป็นธรรม และการเป็นประชาธิปไตยที่จอมปลอม อย่างที่สองคือ ความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลมีการบริหารเศรษฐกิจตกต่ำ และความท้าทายสุดท้ายคือความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี
โดยจะนำประชาชนให้มีส่วนร่วมในสภาให้มากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวสื่อสารให้ประชาชนสามารถเสนอปัญหาความคิด และร่วมติดตามการทำงานของรัฐบาลกับทีมงานเพื่อไทย นอกจากนี้จะมีการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยทั้งหมดระเร่งดำเนินการให้เสร็จใน 2 สัปดาห์
คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวสรุปว่า จากที่กล่าวมาทีมเพื่อไทยยุคใหม่ จะทำงานเพื่อให้บรรลุ 3 เป้าหมายคือ
1. คืนความอยู่ดีกินดี และความสงบสุข ให้แก่คนไทย และประเทศไทย
2. คืนประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
3. คืนศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไทยให้กลับมาทัดเทียมกับโลกอีกครั้ง เหมือนในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย