พิสูจน์กลางรายการ ต่างคนต่างคิด กรณีซื้อ-ขายเหล็กไหล 389 ล้าน เห็นจะจะ อธิษฐานให้ไม้ขีด 1 กล่อง จุดไม่ติด 9 ก้าน และพอจุดก็ไม่ติดไฟจริง ๆ 9 ก้าน ด้าน อ.อ๊อด ชี้ ขอพิสูจน์ในห้องแล็บ แต่ชาวบ้านไม่อนุญาต
จากกรณีที่ นายบุญญฤทธิ์ ประทุมคำ หรือชื่อเดิม นายบุญเรือง อายุ 60 ปี พ่อค้ารับซื้อเหล็กไหล ได้เข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง และติดต่อขอซื้อเหล็กไหล จากนายบรรดิษฐ์ ชอบชื่น จึงทำให้นายบรรดิษฐ์ไปรวมตัวกับเจ้าของเหล็กไหลคนอื่น ๆ อีก 10 กว่าคน เพื่อรวมเหล็กไหลขายให้นายบุญญฤทธิ์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 389 ล้าน
ทั้งนี้ เหล็กไหลนั้นถือเป็นของขลัง หากเอาไปทาบกับนาฬิกา ก็จะทำให้นาฬิกาหยุดเดิน และวิธีการทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของเหล็กไหลคือ ให้นำกล่องไม้ขีดมา 1 กล่อง แล้ววางเหล็กไหลเอาไว้บนกล่อง จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานว่า ในกล่องไม้ขีด 1 กล่อง อยากให้จุดติดไฟกี่ก้าน
อย่างไรก็ตาม การซื้อ-ขายเหล็กไหลนั้นมีกฎว่า ต้องมีการโอนค่าใช้จ่ายไปให้นายหน้า เพื่อให้นายหน้ามาหาและซื้อเหล็กไหลไป ซึ่งนายบรรดิษฐ์ได้โอนเงินไปให้นายบุญญฤทธิ์นับแสนบาท ทว่าเมื่อนายบุญญฤทธิ์ทดสอบเหล็กไหลได้ตามที่ต้องการ แต่กลับไม่จ่ายเงินซื้อ ทำให้นายบรรดิษฐ์และเจ้าของคนอื่น รวมตัวกันกักตัวนายบุญญฤทธิ์ และเข้าแจ้งความ
ล่าสุด (16 กรกฎาคม 2562) นางศรวิรินทร์ อุปลา, นายบรรดิษฐ์ ชอบชื่น และนายสมเชาว์ ผ่องแผ้ว พร้อมกับนายบุญญฤทธิ์ ประทุมคำ นายทุนคนดังกล่าว ได้มาออกรายการ ต่างคนต่างคิด โดยมี รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาร่วมในรายการด้วย
นายสมเชาว์ เผยว่า ตนมีเหล็กไหล และนายบุญญฤทธิ์ต้องการซื้อต่อ แต่ก่อนจะซื้อ-ขาย ต้องมีการทดสอบก่อน หากเหล็กไหลศักดิ์สิทธิ์จริง ต้องมีการพิสูจน์ด้วยกล่องไม้ขีด อธิษฐานในใจว่า ในกล่องไม้ขีด 40 ก้าน อยากให้ไม้ขีดไฟจุดไม่ติดกี่ก้าน
ทั้งนี้ เหล็กไหลถือเป็นของขลัง ใช้ปัดเป่าอันตราย ยิงไม่เข้า หากอยากได้ต้องไปหาในถ้ำ ไหลออกมาจากก้อนหิน และเกจิอาจารย์ต้องทำพิธีเรียกมา เหล็กไหลของนายสมเชาว์นั้นตั้งราคาขายไว้ที่ 159 ล้าน แต่ยังไม่มีใครมาซื้อ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีคนทำสถิติขายเหล็กไหลได้ที่ราคา 60 ล้านบาท
นายบุญญฤทธิ์ เผยว่า ตนมีออร์เดอร์มาจากต่างประเทศให้มาหาซื้อเหล็กไหล ตนก็เป็นเพียงนายหน้าเท่านั้น ส่วนการทดสอบนั้น จะใช้วิธีทดสอบแบบโบราณ คือ การใช้วิธีจุดไม้ขีดไฟ โดยเปิดกล่องไม้ขีดบนพาน วางเหล็กไหลบนไม้ขีด จากนั้นรอให้องค์เหล็กไหลมาประทับ แล้วจึงจุดไฟ ส่วนไม้ขีดจะไม่ติดไฟกี่ก้าน ต้องมีผู้ตั้งจิตอธิษฐานไว้
ทั้งนี้ ในรายการต่างคนต่างคิด ได้มีการพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของเหล็กไหล โดยผู้ดำเนินรายการได้ตั้งจิตอธิษฐาน และเขียนตัวเลขเอาไว้ในกระดาษ ว่าอยากให้ไม้ขีดไม่ติดไฟกี่ก้าน แล้วเก็บเอาไว้ ซึ่งพอจุดไฟแล้ว ไม้ขีดไฟจาก 40 ก้าน มีไม้ขีดที่ไม่ติดไฟ 9 ก้าน ตรงตามที่เขียนไว้ในกระดาษพอดี
ด้าน รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด เผยว่า หากดูด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถระบุได้ว่าเหล็กไหลคือวัตถุชนิดใด ต้องตรวจในห้องปฏิบัติการ ส่วนเรื่องจุดไม้ขีดไม่ติดไฟ 9 ก้านตามที่อธิษฐานนั้น เป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่อนุญาตให้นำเหล็กไหลไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพราะมองว่าเป็นการลบหลู่
![พิสูจน์เหล็กไหล]( "พิสูจน์เหล็กไหล")
นอกจากนี้ อ.อ๊อด ยังบอกว่า จริง ๆ แล้วเหล็กไหลอาจจะไม่ได้มีอิทธิพลกับไม้ขีดไฟขนาดนั้น การจุดไม้ขีดไฟทั้งกล่อง ก็ไม่ทำให้ไม้ขีดจุดติดทุกก้าน กล่องไม้ขีดไฟมี 2 ส่วน คือ ส่วนข้างที่เป็นฟอสฟอรัสแดง และส่วนหัวไม้ขีดที่เป็นโพแทสเซียมคลอเรต เมื่อเสียดสีกันก็จะติดไฟ แต่เมื่อใช้ไปหลายครั้ง ข้างแถบหายไป ก็ติดไฟยากขึ้น การจุดติดไฟบ้างไม่ติดบ้าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเหล็กไหล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีที่ นายบุญญฤทธิ์ ประทุมคำ หรือชื่อเดิม นายบุญเรือง อายุ 60 ปี พ่อค้ารับซื้อเหล็กไหล ได้เข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง และติดต่อขอซื้อเหล็กไหล จากนายบรรดิษฐ์ ชอบชื่น จึงทำให้นายบรรดิษฐ์ไปรวมตัวกับเจ้าของเหล็กไหลคนอื่น ๆ อีก 10 กว่าคน เพื่อรวมเหล็กไหลขายให้นายบุญญฤทธิ์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 389 ล้าน
ทั้งนี้ เหล็กไหลนั้นถือเป็นของขลัง หากเอาไปทาบกับนาฬิกา ก็จะทำให้นาฬิกาหยุดเดิน และวิธีการทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของเหล็กไหลคือ ให้นำกล่องไม้ขีดมา 1 กล่อง แล้ววางเหล็กไหลเอาไว้บนกล่อง จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานว่า ในกล่องไม้ขีด 1 กล่อง อยากให้จุดติดไฟกี่ก้าน
อย่างไรก็ตาม การซื้อ-ขายเหล็กไหลนั้นมีกฎว่า ต้องมีการโอนค่าใช้จ่ายไปให้นายหน้า เพื่อให้นายหน้ามาหาและซื้อเหล็กไหลไป ซึ่งนายบรรดิษฐ์ได้โอนเงินไปให้นายบุญญฤทธิ์นับแสนบาท ทว่าเมื่อนายบุญญฤทธิ์ทดสอบเหล็กไหลได้ตามที่ต้องการ แต่กลับไม่จ่ายเงินซื้อ ทำให้นายบรรดิษฐ์และเจ้าของคนอื่น รวมตัวกันกักตัวนายบุญญฤทธิ์ และเข้าแจ้งความ
ล่าสุด (16 กรกฎาคม 2562) นางศรวิรินทร์ อุปลา, นายบรรดิษฐ์ ชอบชื่น และนายสมเชาว์ ผ่องแผ้ว พร้อมกับนายบุญญฤทธิ์ ประทุมคำ นายทุนคนดังกล่าว ได้มาออกรายการ ต่างคนต่างคิด โดยมี รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาร่วมในรายการด้วย
นายสมเชาว์ เผยว่า ตนมีเหล็กไหล และนายบุญญฤทธิ์ต้องการซื้อต่อ แต่ก่อนจะซื้อ-ขาย ต้องมีการทดสอบก่อน หากเหล็กไหลศักดิ์สิทธิ์จริง ต้องมีการพิสูจน์ด้วยกล่องไม้ขีด อธิษฐานในใจว่า ในกล่องไม้ขีด 40 ก้าน อยากให้ไม้ขีดไฟจุดไม่ติดกี่ก้าน
ทั้งนี้ เหล็กไหลถือเป็นของขลัง ใช้ปัดเป่าอันตราย ยิงไม่เข้า หากอยากได้ต้องไปหาในถ้ำ ไหลออกมาจากก้อนหิน และเกจิอาจารย์ต้องทำพิธีเรียกมา เหล็กไหลของนายสมเชาว์นั้นตั้งราคาขายไว้ที่ 159 ล้าน แต่ยังไม่มีใครมาซื้อ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีคนทำสถิติขายเหล็กไหลได้ที่ราคา 60 ล้านบาท
นายบุญญฤทธิ์ เผยว่า ตนมีออร์เดอร์มาจากต่างประเทศให้มาหาซื้อเหล็กไหล ตนก็เป็นเพียงนายหน้าเท่านั้น ส่วนการทดสอบนั้น จะใช้วิธีทดสอบแบบโบราณ คือ การใช้วิธีจุดไม้ขีดไฟ โดยเปิดกล่องไม้ขีดบนพาน วางเหล็กไหลบนไม้ขีด จากนั้นรอให้องค์เหล็กไหลมาประทับ แล้วจึงจุดไฟ ส่วนไม้ขีดจะไม่ติดไฟกี่ก้าน ต้องมีผู้ตั้งจิตอธิษฐานไว้
ทั้งนี้ ในรายการต่างคนต่างคิด ได้มีการพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของเหล็กไหล โดยผู้ดำเนินรายการได้ตั้งจิตอธิษฐาน และเขียนตัวเลขเอาไว้ในกระดาษ ว่าอยากให้ไม้ขีดไม่ติดไฟกี่ก้าน แล้วเก็บเอาไว้ ซึ่งพอจุดไฟแล้ว ไม้ขีดไฟจาก 40 ก้าน มีไม้ขีดที่ไม่ติดไฟ 9 ก้าน ตรงตามที่เขียนไว้ในกระดาษพอดี
ด้าน รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด เผยว่า หากดูด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถระบุได้ว่าเหล็กไหลคือวัตถุชนิดใด ต้องตรวจในห้องปฏิบัติการ ส่วนเรื่องจุดไม้ขีดไม่ติดไฟ 9 ก้านตามที่อธิษฐานนั้น เป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่อนุญาตให้นำเหล็กไหลไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพราะมองว่าเป็นการลบหลู่
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
นอกจากนี้ อ.อ๊อด ยังบอกว่า จริง ๆ แล้วเหล็กไหลอาจจะไม่ได้มีอิทธิพลกับไม้ขีดไฟขนาดนั้น การจุดไม้ขีดไฟทั้งกล่อง ก็ไม่ทำให้ไม้ขีดจุดติดทุกก้าน กล่องไม้ขีดไฟมี 2 ส่วน คือ ส่วนข้างที่เป็นฟอสฟอรัสแดง และส่วนหัวไม้ขีดที่เป็นโพแทสเซียมคลอเรต เมื่อเสียดสีกันก็จะติดไฟ แต่เมื่อใช้ไปหลายครั้ง ข้างแถบหายไป ก็ติดไฟยากขึ้น การจุดติดไฟบ้างไม่ติดบ้าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเหล็กไหล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
