แฉครูโรงเรียนเอกชนดัง กดดันหนักใส่เด็กประถม สั่งทำงานต่อหน้า ถ้าไม่ทำจะปาดคอ - กระโดดตึกตาย จนร้องไห้ไม่กล้าไปเรียน พบบางรายยอมลาออก
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ หลังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้สอบถามผู้ที่เคยเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพฯ พร้อมบอกว่าน้องชั้น ป.4 ถูกคุณครูผู้หญิงในภาพบังคับนั่งทำงานต่อหน้า ขู่ว่าถ้าไม่ทำครูจะปาดคอตัวเองต่อหน้า จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ส่งผลให้เด็กเครียดหนักและร้องไห้ไม่อยากกลับไปโรงเรียนอีก
เจ้าของเรื่องราวเล่าอีกว่า หลังเกิดเรื่องมีเด็กอีกคนซึ่งตอนนี้ออกจากโรงเรียนมาแล้ว เล่าให้ฟังว่า ถูกครูอีกท่านจับไปอยู่กับกลุ่มเด็กออทิสติก เพียงเพราะเป็นลูกครึ่งไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย โดยต่อมาได้มีผู้ปกครองหลายคนแจ้งมาเพิ่มเติมว่า เด็กคนอื่น ๆ ก็เจอประสบการณ์กระทบกระเทือนจิตใจจากครูโรงเรียนนี้ และเด็กบางส่วนก็มีอาการร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียนเช่นกัน
ภายหลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจำนวนมาก โดยศิษย์เก่าบางส่วนยอมรับว่า มีเรื่องราวแบบนี้จริง ขณะที่บางส่วนก็ออกมาปกป้องครู ยืนยันว่าไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ และไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริง
ขณะที่โลกออนไลน์ส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกตกใจที่ครูกลับทำเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจเด็กเช่นนี้ ต่างมองว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะรับมือได้ และอาจเป็นการสร้างปมในใจต่อเด็กอีกด้วย
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ หลังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้สอบถามผู้ที่เคยเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพฯ พร้อมบอกว่าน้องชั้น ป.4 ถูกคุณครูผู้หญิงในภาพบังคับนั่งทำงานต่อหน้า ขู่ว่าถ้าไม่ทำครูจะปาดคอตัวเองต่อหน้า จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ส่งผลให้เด็กเครียดหนักและร้องไห้ไม่อยากกลับไปโรงเรียนอีก
เจ้าของเรื่องราวเล่าอีกว่า หลังเกิดเรื่องมีเด็กอีกคนซึ่งตอนนี้ออกจากโรงเรียนมาแล้ว เล่าให้ฟังว่า ถูกครูอีกท่านจับไปอยู่กับกลุ่มเด็กออทิสติก เพียงเพราะเป็นลูกครึ่งไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย โดยต่อมาได้มีผู้ปกครองหลายคนแจ้งมาเพิ่มเติมว่า เด็กคนอื่น ๆ ก็เจอประสบการณ์กระทบกระเทือนจิตใจจากครูโรงเรียนนี้ และเด็กบางส่วนก็มีอาการร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียนเช่นกัน
ภายหลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจำนวนมาก โดยศิษย์เก่าบางส่วนยอมรับว่า มีเรื่องราวแบบนี้จริง ขณะที่บางส่วนก็ออกมาปกป้องครู ยืนยันว่าไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ และไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริง
ขณะที่โลกออนไลน์ส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกตกใจที่ครูกลับทำเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจเด็กเช่นนี้ ต่างมองว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะรับมือได้ และอาจเป็นการสร้างปมในใจต่อเด็กอีกด้วย