เปิดใจกรรมการผู้ห้ามมวยบนเวที 10 Fight 10 เผยสาเหตุ ทำไมตัดสินใจยุติการชก แม้ ดิว ภัทรพล ยกมือสู้ต่อ ชี้นาทีนั้นยืนอยู่ได้เพราะหัวใจล้วน ๆ
สำหรับแฟนมวยที่ติดตามรายการ 10 Fight 10 เป็นประจำทุกคืนวันจันทร์ ทางช่อง workpoint23 คงจะคุ้นเคยกับเสียงการเน้นย้ำกติกาให้กับนักมวยก่อนการชก ของกรรมการผู้ห้ามบนเวที คุณวัชรินทร์ รัชนิพนธ์ (ป้อม) กรรมการหนุ่มวัย 30 ปี คนนี้เป็นอย่างดี และก็รวมถึงการทำหน้าที่ในไฟต์ล่าสุดคู่ที่ 7 ที่ตัดสินใจยุติการชกให้ แอนด์ดรูว์ กรเศก ชนะ TKO (Technical Knockout ชนะน็อกโดยเทคนิคหรือกติกา) ดิว ภัทรพล ไปในยกที่ 3 ซึ่งการทำหน้าที่ของเขาในครั้งนี้ ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ถึงขนาด อองตวน ปินโต โค้ชทีม Black ของดิว ยังเอ่ยปากชมการตัดสินใจที่เด็ดขาดของกรรมการป้อม จนทีมข่าว Kapook ของเรา ต้องขอไปเจาะลึก สัมภาษณ์เจ้าตัวกันเลยทีเดียว ว่ากรรมการผู้ห้ามบนเวทีคนนี้ เขาเป็นใครกัน !!!
- ต่อยมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ชกมากกว่า 150 ไฟต์ จนแขนหัก
ป้อม วัชรินทร์ : ผมเคยเป็นนักมวยมาก่อนครับ ชกมวยไทยมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แรก ๆ ก็ต่อยแถวบ้านที่ จ.ระนอง ใช้ชื่อในการชกว่า "สิงห์สยาม ศักดิ์สมหมาย" ก็ต่อยมวยภูธรมาเรื่อย ๆ จนมีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อ ม.ปลาย ที่กรุงเทพฯ (โรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ) เข้ามาพร้อมเพื่อนที่ต่อยมวยมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หัวหน้าค่ายเขาเห็นว่าเราเป็นคนระนองทั้งคู่ ก็เลยตั้งชื่อเพื่อนผมว่า "ฝนแปด" ส่วนผมคือ "แดดสี่ ป.ชัยวัฒน์" ตอนหลังก็ได้มาชกที่เวทีมวยมาตรฐานทั้ง 2 เวที คือ เวทีมวยลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน ผมชกพิกัดสุดท้ายคือ 122 ปอนด์ (ซูเปอร์แบนตั้มเวต, จูเนียร์เฟเธอร์เวต) ก่อนจะเลิกต่อยตอนอายุ 18 เพราะแขนหัก รวมทั้งหมดที่ต่อยมาก็มากกว่า 150 ไฟต์ได้ (ส่วน "ฝนแปด" ยังต่อยต่อไปจนได้เป็นแชมป์มวยเวทีราชดำเนิน รุ่นแบนตั้มเวต 118 ปอนด์ ปัจจุบันเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ต่างประเทศ)
ป้อม วัชรินทร์ : หลังจากแขนหัก ผมก็แขวนนวมเลย
แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีจนจบที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
ทีนี้ก็ได้รับการแนะนำจากอาจารย์จรัสเดช อุลิต (ผู้ทรงคุณวุฒิมวยไทย)
ให้ไปอบรมเป็นกรรมการของสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย พออบรมเสร็จ
อาจารย์อุดม ดีกระจ่าง (ประธานกรรมการผู้ตัดสินสนามมวยลุมพินี)
ซึ่งตอนนั้นท่านเป็นวิทยากรอบรม
ก็ชวนให้ไปสมัครสอบเข้าเป็นกรรมการห้ามมวยที่เวทีมวยลุมพินีครับ ผมก็ไปสอบ
และก็สอบได้ในปีนั้นเลย (พ.ศ. 2556)
ทีนี้ก็เป็นกรรมการห้ามมวยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
- 3 รางวัลการันตี การเป็นกรรมการยอดเยี่ยม สู่กรรมการห้ามมวยใน 10 Fight 10
ป้อม วัชรินทร์ : ผมทำหน้าที่ห้ามมวยอยู่ที่ลุมพินีอยู่หลายปี จนเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ. 2561) ผมก็ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัลด้วยกันครับ ได้แก่ รางวัลกรรมการขวัญใจมหาชนของชมรมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย, รางวัลกรรมการยอดเยี่ยมของเวทีลุมพินี และรางวัลกรรมการดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยได้รับการติดต่อจากทีมงาน 10 Fight 10 (PN FIGHTING CLUB ที่ปรึกษา 10 Fight 10) ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ครับ
- การที่ต้องมาตัดสินดาราที่ไม่เคยชกมวย เราต้องรักษาความปลอดภัยของเขาให้มากที่สุด
ป้อม วัชรินทร์ : ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อให้มาทำหน้าที่ใน 10 Fight 10 ไม่ได้หนักใจนะครับ เพราะทั้งคู่ชกภายใต้กติกาเดียวกัน มีการป้องกันตัวของนักมวยในระดับหนึ่ง แต่เราในฐานะกรรมการที่อยู่ใกล้ชิดนักมวยบนเวทีมากที่สุด เราก็ต้องพยายามเซฟตัวเขาให้เต็มที่ ให้แต่ละคนไม่ทำผิดกติกา ต่อยกันในเกมให้สนุกที่สุด เพราะอย่างที่ทราบกันคือ แต่ละคนไม่เคยชกมวยมาก่อน มีเวลาฝึกซ้อมแค่ 3-5 เดือนเท่านั้น
ป้อม วัชรินทร์ : อย่างในกรณีคู่ระหว่าง ดิว กับ แอนด์ดรูว์ นั้น
ในยกแรกทั้งคู่ยังไม่มีอาการนะครับ แต่พอขึ้นยก 2
ผมสังเกตว่าทั้งคู่เริ่มจะอ่อนแรง โดยเฉพาะดิวที่หายใจแรงขึ้น จนในตอนพักยก
ผมได้เดินไปสอบถามทั้งคู่ที่มุม ซึ่งทั้งคู่หลังจากได้พักแล้วก็ดีขึ้น
จนในยกที่ 3 ยกสุดท้าย จริง ๆ จังหวะช่วงที่เขาโดนหมัดนั้น
อย่างที่เห็นกันคือเขาไม่ได้ล้มนะครับ ตาเขาก็ไม่ได้ลอย
แต่แววตาเขาดูหมดแรงมาก ผมเลยตัดสินใจต้องนับ
ระหว่างนับเขาก็ยังชูมือพร้อมชกต่ออยู่เลย แต่พอผมนับถึง 8
ผมประมวลดูแล้วว่าถ้าให้ชกต่อน่าจะเกิดอันตรายได้ ก็เลยตัดสินใจยุติการชก
ต้องเรียกว่าที่ดิวยืนอยู่ได้นั้นเพราะหัวใจล้วน ๆ
แต่ผมสังเกตมาแล้วว่าเขาโดนหมัดไปหลายหมัด โดยไม่สามารถป้องกันตัวเองได้
เรียกว่าดูปฏิกิริยาการตอบสนองครับ ก็เลยตัดสินใจยุติการชกในยกนี้
- บีมหมัดหนักมาก แต่เป้ก็ฟื้นเร็ว แสดงว่าซ้อมมาดีมากเช่นกัน
ป้อม วัชรินทร์ : ถ้าพูดถึง 7 คู่ที่ผ่านมา ผมว่าคู่ของบีม ศรัณยู กับ เป้ อารักษ์ และคู่ของ เจสัน ยัง กับ หลุยส์ พงษ์พันธ์ น่าจะเป็นคู่ที่ต่อยกันถูกกติกามากที่สุดนะครับ ยิ่งโดยเฉพาะคู่บีมกับเป้ ดูรู้เลยว่าบีมนี่หมัดหนักมาก และเป้ก็โดนจัง ๆ แต่จะสังเกตว่าเป้เมื่อโดนแล้ว พอลุกขึ้นมาถอดเฮดการ์ดออก เขาก็ยังสามารถคุยเล่นได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาซ้อมมาดี มีการเตรียมตัวมาดีมากครับ
และนี่ก็คือทรรศนะของผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักมวยบนสังเวียนมวย 10 Fight 10 มากที่สุด ผู้ที่ตัดสินใจยุติการชกเพื่อเซฟชีวิต ดิว ภัทรพล จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยกรรมการป้อม ทำหน้าที่มาแล้วถึง 6 คู่ด้วยกัน (ไม่ได้ทำหน้าที่ห้ามคู่ บอย พิษณุ กับ ซัน ประชากร เพียงคู่เดียว) และในศึก 10 Fight 10 ยังมีการแข่งขันเหลืออีก 3 คู่ ซึ่งบอกเลยว่าแฟน ๆ ห้ามพลาด ดังนี้
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม คู่ที่ 8 กวินท์.ดี VS ไต้ฝุ่น กนกฉัตร
วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม คู่ที่ 9 กาย รัชชานนท์ VS ไนกี้ นิธิดล
ภาพจาก Instagram 10fight10
ภาพจาก Instagram 10fight10
ภาพจาก Instagram 10fight10
"ไม่ชกต่ำกว่าเข็มขัด ระวังศีรษะกระแทก ไม่กอดไม่เหวี่ยง
ออกอาวุธด้วยสันหมัดเป็นส่วนปะทะเป้าหมาย ไม่ตบ ไม่เหวี่ยงกลับ ห้ามหันหลัง
ไม่ต่อยท้ายทอย ชกให้เต็มที่ มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ไม่ทำผิดกติกาใด ๆ
ทั้งสิ้น"
สำหรับแฟนมวยที่ติดตามรายการ 10 Fight 10 เป็นประจำทุกคืนวันจันทร์ ทางช่อง workpoint23 คงจะคุ้นเคยกับเสียงการเน้นย้ำกติกาให้กับนักมวยก่อนการชก ของกรรมการผู้ห้ามบนเวที คุณวัชรินทร์ รัชนิพนธ์ (ป้อม) กรรมการหนุ่มวัย 30 ปี คนนี้เป็นอย่างดี และก็รวมถึงการทำหน้าที่ในไฟต์ล่าสุดคู่ที่ 7 ที่ตัดสินใจยุติการชกให้ แอนด์ดรูว์ กรเศก ชนะ TKO (Technical Knockout ชนะน็อกโดยเทคนิคหรือกติกา) ดิว ภัทรพล ไปในยกที่ 3 ซึ่งการทำหน้าที่ของเขาในครั้งนี้ ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ถึงขนาด อองตวน ปินโต โค้ชทีม Black ของดิว ยังเอ่ยปากชมการตัดสินใจที่เด็ดขาดของกรรมการป้อม จนทีมข่าว Kapook ของเรา ต้องขอไปเจาะลึก สัมภาษณ์เจ้าตัวกันเลยทีเดียว ว่ากรรมการผู้ห้ามบนเวทีคนนี้ เขาเป็นใครกัน !!!
ป้อม วัชรินทร์ : ผมเคยเป็นนักมวยมาก่อนครับ ชกมวยไทยมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แรก ๆ ก็ต่อยแถวบ้านที่ จ.ระนอง ใช้ชื่อในการชกว่า "สิงห์สยาม ศักดิ์สมหมาย" ก็ต่อยมวยภูธรมาเรื่อย ๆ จนมีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อ ม.ปลาย ที่กรุงเทพฯ (โรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ) เข้ามาพร้อมเพื่อนที่ต่อยมวยมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หัวหน้าค่ายเขาเห็นว่าเราเป็นคนระนองทั้งคู่ ก็เลยตั้งชื่อเพื่อนผมว่า "ฝนแปด" ส่วนผมคือ "แดดสี่ ป.ชัยวัฒน์" ตอนหลังก็ได้มาชกที่เวทีมวยมาตรฐานทั้ง 2 เวที คือ เวทีมวยลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน ผมชกพิกัดสุดท้ายคือ 122 ปอนด์ (ซูเปอร์แบนตั้มเวต, จูเนียร์เฟเธอร์เวต) ก่อนจะเลิกต่อยตอนอายุ 18 เพราะแขนหัก รวมทั้งหมดที่ต่อยมาก็มากกว่า 150 ไฟต์ได้ (ส่วน "ฝนแปด" ยังต่อยต่อไปจนได้เป็นแชมป์มวยเวทีราชดำเนิน รุ่นแบนตั้มเวต 118 ปอนด์ ปัจจุบันเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ต่างประเทศ)
- จากนักมวยไทยสู่การเป็นกรรมการห้ามมวยเวทีลุมพินี
ภาพจาก Instagram 10fight10
- 3 รางวัลการันตี การเป็นกรรมการยอดเยี่ยม สู่กรรมการห้ามมวยใน 10 Fight 10
ป้อม วัชรินทร์ : ผมทำหน้าที่ห้ามมวยอยู่ที่ลุมพินีอยู่หลายปี จนเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ. 2561) ผมก็ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัลด้วยกันครับ ได้แก่ รางวัลกรรมการขวัญใจมหาชนของชมรมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย, รางวัลกรรมการยอดเยี่ยมของเวทีลุมพินี และรางวัลกรรมการดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยได้รับการติดต่อจากทีมงาน 10 Fight 10 (PN FIGHTING CLUB ที่ปรึกษา 10 Fight 10) ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ครับ
- การที่ต้องมาตัดสินดาราที่ไม่เคยชกมวย เราต้องรักษาความปลอดภัยของเขาให้มากที่สุด
ป้อม วัชรินทร์ : ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อให้มาทำหน้าที่ใน 10 Fight 10 ไม่ได้หนักใจนะครับ เพราะทั้งคู่ชกภายใต้กติกาเดียวกัน มีการป้องกันตัวของนักมวยในระดับหนึ่ง แต่เราในฐานะกรรมการที่อยู่ใกล้ชิดนักมวยบนเวทีมากที่สุด เราก็ต้องพยายามเซฟตัวเขาให้เต็มที่ ให้แต่ละคนไม่ทำผิดกติกา ต่อยกันในเกมให้สนุกที่สุด เพราะอย่างที่ทราบกันคือ แต่ละคนไม่เคยชกมวยมาก่อน มีเวลาฝึกซ้อมแค่ 3-5 เดือนเท่านั้น
- สังเกตเห็นว่าดิวเขาเหมือนจะหมดแรง ไม่มีการตอบโต้แล้ว ก็เลยตัดสินใจยุติการชก
ภาพจาก Instagram 10fight10
- บีมหมัดหนักมาก แต่เป้ก็ฟื้นเร็ว แสดงว่าซ้อมมาดีมากเช่นกัน
ป้อม วัชรินทร์ : ถ้าพูดถึง 7 คู่ที่ผ่านมา ผมว่าคู่ของบีม ศรัณยู กับ เป้ อารักษ์ และคู่ของ เจสัน ยัง กับ หลุยส์ พงษ์พันธ์ น่าจะเป็นคู่ที่ต่อยกันถูกกติกามากที่สุดนะครับ ยิ่งโดยเฉพาะคู่บีมกับเป้ ดูรู้เลยว่าบีมนี่หมัดหนักมาก และเป้ก็โดนจัง ๆ แต่จะสังเกตว่าเป้เมื่อโดนแล้ว พอลุกขึ้นมาถอดเฮดการ์ดออก เขาก็ยังสามารถคุยเล่นได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาซ้อมมาดี มีการเตรียมตัวมาดีมากครับ
และนี่ก็คือทรรศนะของผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักมวยบนสังเวียนมวย 10 Fight 10 มากที่สุด ผู้ที่ตัดสินใจยุติการชกเพื่อเซฟชีวิต ดิว ภัทรพล จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยกรรมการป้อม ทำหน้าที่มาแล้วถึง 6 คู่ด้วยกัน (ไม่ได้ทำหน้าที่ห้ามคู่ บอย พิษณุ กับ ซัน ประชากร เพียงคู่เดียว) และในศึก 10 Fight 10 ยังมีการแข่งขันเหลืออีก 3 คู่ ซึ่งบอกเลยว่าแฟน ๆ ห้ามพลาด ดังนี้
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม คู่ที่ 8 กวินท์.ดี VS ไต้ฝุ่น กนกฉัตร
วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม คู่ที่ 9 กาย รัชชานนท์ VS ไนกี้ นิธิดล
วันจันทร์ 12 สิงหาคม คู่ที่ 10 (คู่สุดท้าย) เจ้าขุน จักรภัทร VS แบงค์ ธิติ
ภาพจาก Instagram 10fight10
ภาพจาก Instagram 10fight10
ภาพจาก Instagram 10fight10
ภาพจาก Instagram 10fight10