เปิดใจลูกเมีย นายสิงห์แก้ว วงค์ใหญ่ นักธุรกิจไทยที่ถูกเรียกค่าไถ่ในลาว ชี้ ไม่มีเงินถึง 5 ล้านบาท วอนตำรวจลาวช่วยจับคนร้าย ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้สาเหตุโดนจับ มืดแปดด้าน
รายการข่าวเย็นอมรินทร์ ได้มีการติดต่อลูกและภรรยาของนายสิงห์แก้ว เพื่อเข้าให้ปากคำ และทางฝ่ายไทย ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารพราน และ ตม. เพื่อพาญาติของนายสิงห์แก้วไปให้ข้อมูลที่เมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว และตอนนี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจเป็นคนขับรถของนายสิงห์แก้ว
เรื่องนี้เกิดจากเมื่อนายสิงห์แก้วทำธุรกิจที่เมืองต้นผึ้งเสร็จแล้ว ก็ได้รับการติดต่อจากนายเหว่ย และนายจุ๋ม ให้ไปพบเจ้าหน้าที่คนหนึ่งใน สปป.ลาว ที่เมืองห้วยทราย แต่ขณะที่เดินทางผ่านหมู่บ้านดอนสวรรค์นั้น นายสิงห์แก้วกลับถูกลักพาตัวไป แล้วจึงมีการส่งคลิปไปเรียกค่าไถ่กับญาติ
โดยคาดว่าชนวนเหตุในเรื่องนี้นั้น อาจจะเป็นปัญหาเรื่องธุรกิจน้ำตาล วงเงินกว่า 13 ล้านบาท หรือธุรกิจการซื้อ-ขายต้นไม้ใหญ่และไม้ดอกไม้ประดับ วงเงิน 3 แสนบาท และอีกอย่างคือ ธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว ซึ่งนายสิงห์แก้วได้ไปลงทุนร่วมกับนักลงทุนจีน
ด้านภรรยา ลูกสาว และลูกชาย เผยว่า ปกติคุณพ่อจะทำธุรกิจกับฝั่ง สปป.ลาว บ่อยครั้ง จากการส่งออกสุกร กระบือ ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จนมาครั้งนี้ที่ถูกถ่ายคลิปเรียกค่าไถ่ ก่อนหน้านี้คุณพ่อก็ไม่มีความขัดแย้งกับใครเรื่องธุรกิจ วงเงินก็เล็ก ไม่น่าถึง 5 ล้านที่เรียกค่าไถ่ ส่วนเรื่องการค้าน้ำตาล 13 ล้านก็เป็นไปไม่ได้
สาเหตุที่แท้จริงนั้น
ครอบครัวไม่รู้ แต่ในแชตนั้น บัญชีที่บอกให้โอนเงินเป็นชื่อคนไทย
และเจ้าหน้าที่จะไปขยายผลเพิ่มเติม ส่วนเงิน 5 ล้านนั้นครอบครัวไม่มี
มีแต่เงินที่หมุนในธุรกิจเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการข่าวเย็นอมรินทร์, อีจัน