x close

เปิดศึกแย่งที่จอดรถ สาวผวา ชายคล้ายทหารชักปืนขู่-แม่คู่กรณีลั่นจะพาไปปรับทัศนคติ

        สาวโร่แจ้งความ เปิดศึกแย่งที่จอดรถกับเพื่อนบ้านบนที่จอดสาธารณะ เจอชายแต่งตัวคล้ายทหาร ถือปืนมาข่มขู่ถึงหน้าบ้าน ด้านแม่คู่กรณีลั่นจะพาไปปรับทัศนคติ 

ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        จากกรณี น.ส.เขมจิรา ตรียาวุฒิวาทย์ หรือ หลิน อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านคลองสี่-วงแหวน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินทางเข้าร้องสื่อมวลชน หลังถูกชายแต่งกายคล้ายทหาร ถือปืนมาข่มขู่ถึงหน้าบ้านระหว่างที่อยู่คนเดียว คาดสาเหตุเกิดจากการจอดรถบนถนนสาธารณะภายในหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว

        ล่าสุด รายการโหนกระแส วันที่ 30 กรกฎาคม 2562 โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45-14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ น.ส.เขมจิรา ผู้เสียหาย พร้อมกับ นายธนธรณ์ พยานที่อยู่ในเหตุการณ์
 

คุณหลินอยู่หมู่บ้านแห่งนี้ 4 เดือน อยู่ที่ไหน ?

        หลิน : คลองสี่ คลองหลวง เป็นทาวน์โฮม คือจะมีปัญหากับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเขาอาศัยอยู่ 3 คน มีแม่ ลูกชาย ลูกสาว แม่อายุประมาณ 55 ลูกชายคร่าว ๆ น่าจะ 28-29 ลูกสาว 25-26 ลูกชายไป ๆ มา ๆ ไม่ค่อยได้อยู่ บ้านหลังนี้มีคุณแม่กับลูกสาว

ลูกชายทำงานอะไร ?


ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        หลิน : ทหารค่ะ
 
มั่นใจเหรอ ?

        หลิน : เห็นแต่งทหารมาบ่อย แล้วหลังรถเขาก็ติดว่าทหารพระราชา

ชุดเป็นยังไง ?

        หลิน : เป็นทหารบกค่ะ แต่งชุดเต็มยศบ้างบางครั้ง

ทำไมคุณไม่จอดบ้านคุณ ?

        หลิน : เขาก็ไม่จอดในบ้านเขาเหมือนกัน หลินทำธุรกิจ เลยเลือกจอดฝั่งนั้น เพื่อที่ว่าแขกมาติดต่อเราจะได้ลงมาเลย

นิติฯ ยืนยันว่าคุณจอดได้ ไม่ใช่ที่ของเขา ?

        หลิน : ถูกต้องค่ะ เป็นที่สาธารณะค่ะ

เกิดอะไรขึ้นครั้งแรก ?

        หลิน : ครั้งแรกที่เป็นปัญหาก็ตามภาพค่ะ เขาเอารถมาจอดดักหน้าดักหลังเรา เราเลยแจ้งความตำรวจ รถสีดำเป็นของคุณแม่บ้านนั้นค่ะ ข้างขวาสีขาวคือรถลูกสาวเขา รถเราอยู่ตรงกลาง ออกไปไหนไม่ได้ เขาก็เข้าเกียร์ใส่เบรกมือ เราก็ไม่ได้ออกค่ะ

แจ้งนิติฯ ไหม ?


ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        หลิน : แจ้งค่ะ วันนั้นแจ้งไปไม่มีฟีดแบ็ก เพราะเขาไม่ได้รับโทรศัพท์ ก็เลยไปแจ้ง สภ.คลองหลวง มีสายตรวจเข้ามา แล้วตกลงกันไม่ได้ ก็การทะเลาะวิวาทต่อหน้าตำรวจ ตอนนั้นหลินอยู่คนเดียว เขาอยู่กันสองคนแม่ลูก มีลูกชายเขาด้วย แต่ตอนตำรวจมา ไม่แน่ใจว่าลูกชายเขาอยู่หรือเปล่า ตอนเถียงกันก็ทะเลาะกันแรงเลย

ตอนตำรวจมา มีใครยืนอยู่บ้าง ?

        หลิน : มี รปภ. หลิน ตำรวจ 2 นาย มีแม่กับลูกสาว ลูกชายไม่แน่ใจว่ายืนอยู่ข้าง ๆ หรือไงนี่แหละค่ะ ตะโกนด่าเถียงกัน เขาก็บอกว่ามึงคิดผิดแล้วที่มีเรื่องกับกู มึงจบไม่สวยแน่ ไปปรับทัศนคติหน่อยมั้ย

ใครพูด ?

        หลิน : คำนี้แม่เขาพูดค่ะ
 
ฝ่ายชายพูดอะไรไหม ?

        หลิน : ฝ่ายชายเหมือนยืนดูเหตุการณ์เฉย ๆ ไม่ได้พูดอะไรค่ะ ลูกสาวด่าเราค่อนข้างเยอะ ตำรวจก็บอกว่าผมเคลียร์ไม่ได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่นิติบุคคล ให้ไปเคลียร์กันเอาเอง แต่ถ้าอยากแจ้งความ พรุ่งนี้ก็ให้ไปแจ้งความที่ สน.

วันเกิดเรื่องคือวันที่เท่าไหร่ ?


ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        หลิน : 18 กรกฎาคม ค่ะ วันที่ 19 กรกฎาคม เราเลยไปแจ้งความ เอารูปปิดหัวปิดท้ายไปลงบันทึกประจำวัน ตำรวจก็ลงบันทึกประจำวันไว้เหตุการณ์ก็ไม่มีอะไร ตัดมาอีกทีก็ตอนเย็นวันที่ 19 กรกฎาคม มีทหารนายหนึ่ง อายุมากแล้ว มาอยู่ในบ้านหลังนั้น จังหวะตอนเย็น ออกไปหน้าบ้านพอดี พี่เขามาคุยเรื่องงาน เราเดินออกไปพอดี พอเขาเห็นเราเดินออกไป เป็นจังหวะพอดีรถลูกสาวฝั่งตรงข้ามเขาขับเข้ามา ยังไม่ทันจอดเลย ทหารก็ตะโกนเลยว่าจอดได้มั้ยลูก จอดไม่ได้ให้บอกนะเดี๋ยวจัดการให้

เขาพูดกับคนในรถ เขาเปิดกระจกไหม ?

        หลิน : ไม่ค่ะ เพราะยังไม่ได้จอดเลยค่ะ เขาตะโกนบอกตั้งใจให้ได้ยินค่ะ เขาบอกว่าจอดได้มั้ยลูก จอดไม่ได้ให้บอกนะ เดี๋ยวจะจัดการให้ เขาพูดคำนี้ดัง ๆ แต่หน้าตามองมาที่เรา หลังจากนั้นเราก็ออกไปกินข้าวอีกรอบ พอเขาเห็นเราขึ้นรถ เขาก็เดินออกมายืนตรงมุม เขาแต่งเสื้อสีเขียวขี้ม้า แล้วกางเกงลายทาง

หลังจากนั้นยังไง ?

        ธนธรณ์ : ตอนขับรถออกไป เขามายืนชี้หน้ารถ ยืนตรงมุมรั้วที่เขาจอด

        หลิน : มาชี้หน้า เราก็แค่เอ๊ะ มาอะไรกับเรา หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ไปกินข้าว ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง

        ธนธรณ์ : แต่ก่อนรถออกไป เขาตะโกนใส่ผมว่าต้นไม้มันรก เดี๋ยวจะให้ทหารมาตัดให้ เพราะมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่ง เอารถไปจอดเอาร่ม เขาก็บอกว่าถ้ารถจอดไม่ได้ ให้ลูกน้องเป็นทหารมาขยับให้

คุณมองว่าเป็นการข่มขู่ ?

        ธนธรณ์ : ใช่ครับ
 
        หลิน : ข่มขู่ค่ะ
 
ถ้าจอดไม่ได้เดี๋ยวให้ทหารมาจัดการให้ ?


ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        หลิน : ใช่ค่ะ ต้องการให้เรากลัวว่าเขาเป็นทหาร

วันเกิดเรื่องคุณอยู่ด้วย ?

        ธนธรณ์ : อยู่ครับ

เห็นลูกชายเขาไหม ?

        ธนธรณ์ : เห็นอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้ออกมาริมรั้ว แต่งชุดทหาร ก็ไม่ได้พูดคุยตอนทะเลาะกัน แต่เวลาผมเดินออกไปนอกรั้วบ้าน เขาก็เดินออกมา ผมเดินไปรถผม เขาเดินไปรถเขา แล้วก็มองหน้ากัน เหมือนเขาเฝ้ามองที่ริมรั้วว่าฝั่งผมทำอะไร ทีแรกผมไม่ได้สังเกต เพราะไม่ได้คิดว่าจะทะเลาะกัน ตอนนั้นก็เป็นก่อนจอดรถปิดท้ายปิดหัว ตอนนั้นผมเข้าไปก่อน เหมือนจะร่วมหุ้นส่วน มาเจรจาหุ้นธุรกิจกัน แค่ผมเดินออกมา เขาก็มาจ้อง คิดว่าผมเป็นฝ่ายนี้ ซึ่งจริง ๆ ผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากันมาก่อนไหม ?

        หลิน : ไม่เคยค่ะ มีปัญหาเรื่องที่จอดรถอย่างเดียว

นี่เป็นครั้งแรกเหรอ ?

        หลิน : ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ มีมาเรื่อย ๆ จะมีปัญหาเรื่องการจอดรถนี่แหละค่ะ จอดติดบ้างไม่ติดบ้าง ซึ่งเราไม่ได้ใส่ใจ เราจะใช้วิธีว่าแจ้งนิติฯ บอกว่าเพื่อนบ้านจอดแบบนี้นะ

คุณไปฟ้องนิติฯ แล้วปิดหัวปิดท้ายแบบนี้กี่ครั้ง ?

        หลิน : ปิดหัวปิดท้ายครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ลักษณะจอดจี้ตูด เขาแจ้งนิติฯ ว่าไม่อยากให้รถเขาไปล้ำถนน แต่พื้นที่ข้างหลังตูดรถเขานี่เหลือพอที่จะจอด รถลูกสาว ลูกชาย และแม่เขาก็จอดลักษณะเดียวกัน เขาแจ้งนิติฯ ว่ากลัวรถเลี้ยวเข้าซอยจะเฉี่ยวรถเขา

วันที่ 20 กรกฎาคม 2562 เกิดอะไร ?


ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

        หลิน : วันนั้นเราอยู่บ้านคนเดียว จังหวะช่วงประมาณเที่ยงนิด ๆ พอดีติดสายลูกค้าอยู่ กำลังคุยโทรศัพท์ มีรถมอเตอร์ไซค์มาเบิ้ลรถหน้าบ้าน เราก็หันไปมอง พอเห็นว่าเราหันไปมอง เขาก็ชักปืนมาโชว์เลย กำลังอึ้งตกใจ ช่วงจังหวะตกใจพยายามหยิบโทรศัพท์มาถ่าย

คนนั้นคือใคร ?

        หลิน : คือทหารที่มาชี้หน้าเราวันที่ 19 กรกฎาคม ค่ะ หลังชักปืนขู่ได้ 5 นาที เขาก็เดิน แล้วเป็นจังหวะ รปภ. ขี่จักรยานมา เขาก็น่าจะเรียกคุยเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้

คุณอยู่ในบ้านแอบถ่ายรูป ?

        หลิน : ใช่ค่ะ จังหวะเขาชักปืนเราถ่ายไม่ทัน อาจด้วยความตกใจ พอเขาย้อนมาอีกครั้งเราก็เลยถ่ายรูปเขาไว้

คุณรู้ได้ไงว่าเขามีปืน ?

        หลิน : ตอนแรกไปแจ้งความ ตำรวจบอกว่าคุณบันทึกภาพได้มั้ย เราก็บอกว่าไม่ได้ ไปแจ้งนิติฯ นิติฯ ถามว่าคุณบันทึกภาพได้มั้ย ก็คือไม่ได้ เราเลยตัดสินใจไปขอดูกล้องวงจรปิดจากนิติฯ แต่นิติฯ บอกไม่ได้ ต้องได้หมายเรียกจากตำรวจมาถึงจะเปิดกล้องได้ เราก็ไปที่โรงพัก เขาก็บอกอธิบายเกี่ยวกับคดีให้เราฟังว่าตรงนี้ยังไม่ได้ยิงและไม่มีหลักฐาน วันนั้นกลับมาจาก สน. ก็คิดอะไรไม่ออก ก็นึกถึง อ.เดชา ทนายคลายทุกข์ ก็โทร. ปรึกษา เหมือนเป็นข้อกฎหมาย อยู่ดี ๆ ก็แวบขึ้นมา จอดรถหาเบอร์ในอินเทอร์เน็ต เจอเบอร์ปุ๊บรีบกดโทร. หา อาจารย์บอกว่า ผมมีเวลาคุยสั้น ๆ นะ หลินก็เลยปรึกษา อธิบายให้เขาฟัง เขาบอกว่าให้ไปบอกนิติฯ หมู่บ้านเลยว่ากฎหมายหมู่บ้านเราสามารถขอดูกล้องวงจรปิดได้ ถ้าเขาไม่ให้ดู ให้อ้างชื่อผม เราก็โทร. ไปโครงการเขาเลยค่ะ เพราะคุยกับนิติฯ ไม่รู้เรื่องแล้ว บอกว่าเราอยากดูกล้อง เราเป็นลูกบ้านนะ เราปรึกษาทนายความแล้ว อ.เดชา บอกว่าอย่างนี้ ก็อ้าง อ.เดชา เลย อีกวันเขาก็โทร. มาให้เราไปดูกล้องได้

สิ่งที่เห็นคุณตกใจมาก ?

        หลิน : ใช่ค่ะ เห็นเลยว่า เฮ้ย คุณเตรียมการชักปืนตั้งแต่หน้าป้อมยาม เขาชักปืนให้ รปภ. เห็นเลย พอเกิดเหตุก็เอาคลิปนี้ไปให้นิติฯ ดู นิติฯ บอกว่าเขาไม่เห็นว่าเป็นปืน รปภ. ก็บอกว่าไม่เห็นปืน เราก็ตกใจว่ามันปืนชัด ๆ ทำไมพวกคุณบอกว่าไม่เห็น พอเรามีคลิปหลินก็กลับไป สน. อีกครั้ง เอาคลิปให้ตำรวจดู เขาบอกว่าจะเข้ามาเก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดแล้วตามตัวผู้ก่อเหตุให้ ส่วนทางนิติฯ ด้วยความที่หลินอยู่บ้านคนเดียว ก็ขอไม่ให้บุคคลในภาพเข้ามาในหมู่บ้านได้มั้ย เขาบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิเพื่อนบ้าน เหตุผลเพราะเขามีสติ๊กเกอร์แดง ๆ หน้ารถ ถ้ามีสติ๊กเกอร์นี้ก็สามารถเข้า-ออกโครงการได้ อีกอย่างเราไปขอทะเบียนรถนิติฯ นิติฯ เขามีข้อมูล แต่เขาบอกว่าไม่สามารถให้ได้ มันเป็นการละเมิดสิทธิ เขาอ้างแบบนี้อย่างเดียว ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับความยุติธรรม ก็เลยเอาคลิปนี้มาแชร์ในโซเชียล

ประเด็นอยู่ตรงที่เขาดึงขึ้นมามันคือปืนหรือไม่ใช่ปืน คุณถาม รปภ. ไหม ?

        หลิน : ตอนไปขอดูกล้องวงจรปิด รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์ตามคลิป เขาบอกไม่เห็นค่ะ ต่อหน้านิติฯ เขาบอกไม่เห็น แต่ตอนดูกล้องวงจรปิด หลินก็ถามเขาว่าเห็นปืนตั้งแต่วันนั้นแล้วใช่มั้ย เขาก็ตอบหลินว่าใช่ แต่นิติฯ อ้างว่า รปภ. คนนี้บอกว่าไม่เห็น

คุณบอกหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีประเด็นเกิดขึ้นอีก ?

        หลิน : เราก็ยังไปจอดรถปกติ พอเราเห็นพื้นที่ว่างเราก็ไปจอด แต่บ้านฝั่งตรงข้ามที่มีเรื่อง พอเขากลับมาจากข้างนอก เขาเห็นเราจอดฝั่งโน้นคู่รถลูกเขา เขาก็เอารถป้ายแดงมาจอดหน้าบ้านเราเลยทันทีค่ะ ซึ่งตรงอื่นก็ว่างค่ะ

คิดว่าเป็นการแกล้งกัน ?

        หลิน : ใช่ค่ะ

เพราะคุณไปจอดริมรั้วบ้านเขาหรือเปล่า ?

        หลิน : เขาคิดว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่บ้านเขา แต่นิติฯ พูดชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ส่วนกลาง ใครมาก่อนจอดก่อน ที่อื่นมันไกลบ้านเรา เรากลัวไปจอดแล้วจะมีปัญหา

จะทำยังไง ?

        หลิน : ไม่ได้ย้ายออก ประเด็นหลังเกิดเรื่องราวครั้งสุดท้าย ตำรวจมาไกล่เกลี่ยขอความร่วมมือ ถ้ากรณีเราไม่มีเพื่อนบ้านมา ให้เราถอยรถมาที่บ้านเรา ทุกวันนี้หลินก็มาจอดหน้าบ้านหลิน ส่วนเขาก็บอกว่าขอความกรุณาให้ไปจอดหน้าบ้านเขา แต่เขาก็เอารถมาจอดริมรั้วคันนึง แต่ที่ตรงนั้น จริง ๆ จอดได้สองคัน ตอนนี้เขาจอดกั๊กตรงกลางเลย

เพราะเขาคิดว่าเป็นที่ข้างบ้านเขา นิติฯ ไม่กล้าพูดอะไรเลยเหรอ ?

        หลิน : หลินไม่ทราบค่ะว่าเขาไปเคลียร์ เพราะเขาไม่เคยมีฟีดแบ็กมาหาเราเลย มีแต่เราคอยตามนิติฯ ว่าแจ้งเพื่อนบ้านมั้ย นิติฯ เขาก็บอกว่าคุยแล้ว

ทุกวันนี้ยังเจอทหารไหม ?

        หลิน : ไม่เจอค่ะ ที่หลินออกมาเพราะกลัวเราไม่ปลอดภัย และมั่นใจว่าวันที่เขามาหน้าบ้านเราเป็นปืนแน่ ๆ ค่ะ ปืนชัด ๆ ไม่ได้เป็นอย่างอื่น

ถ้าไม่ใช่ปืนจะทำยังไง ?

        หลิน : ปืนจริงปืนปลอมหลินไม่รู้ แต่ ณ วันนั้นที่เห็นมันคือปืนจริง ๆ

ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดศึกแย่งที่จอดรถ สาวผวา ชายคล้ายทหารชักปืนขู่-แม่คู่กรณีลั่นจะพาไปปรับทัศนคติ อัปเดตล่าสุด 30 กรกฎาคม 2562 เวลา 23:37:14 35,447 อ่าน
TOP