หนุ่ม Stalker เดินตามสาวเข้าหอ มอบตัว อ้างบิดกุญแจจนคนหลอน อยากเข้าห้องน้ำ

           หนุ่มในคลิปขี่รถตามสาว ก่อนเดินตามเข้าถึงในหอพัก มอบตัวตำรวจ อ้างตามผู้หญิงอีกคนมา แต่เมาไม่ได้สติจึงไม่รู้ว่าผิดคน ยันไม่เจตนาคิดร้าย เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาบุกรุกในเวลากลางวัน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

          จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก หัวร้อน ได้มีการโพสต์คลิปวงจรปิดจับภาพชายคนหนึ่งมีท่าทีมีพิรุธ ขี่รถจักรยานยนต์ตามผู้หญิงคนหนึ่งมาถึงหอพัก และได้อาศัยจังหวะเดินเนียนตามเข้าไปถึงหน้าห้อง แต่ไม่สามารถเข้าไปที่ห้องผู้หญิงได้ เพราะอีกฝ่ายปิดประตูล็อกทัน แต่ชายในคลิปพยายามเดินไปที่ห้องอื่น ๆ และมีการบิดลูกบิดเพื่อเช็กดูว่าห้องอื่นล็อกห้องหรือไม่ ก่อนจะถูกคนดูแลหอพักไล่ตามถ่ายคลิปไว้ได้ ซึ่งจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขี่รถหลบหนีไป เหตุเกิดภายในซอยลาดพร้าว 122 หรือรามคำแหง 65

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (31 กรกฎาคม 2562) ข่าวช่องวัน รายงานว่า ชายในคลิปได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง แล้ว ทราบชื่อคือ นายมาร์ค อายุ 25 ปี พร้อมให้การยืนยันว่า ตนเองไม่ได้คิดร้าย และไม่ได้ตั้งใจขี่รถตามผู้หญิงในคลิป สืบเนื่องจากตนเองทะเลาะกับแฟนเลยไปดื่มเหล้าตั้งแต่ตี 1 ของคืนวันที่ 30 กรกฎาคม และได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งในผับ มีการชวนกันไปต่อที่ห้องผู้หญิง ตนเองจึงขี่รถตามโดยที่ไม่รู้ว่าคนที่ขี่รถตามเป็นคนละคนกัน เพราะตอนนั้นเมาไม่มีสติ ส่วนที่เดินเช็กห้องอื่น ๆ นั้น เพราะตนปวดฉี่ แต่ออกจากอาคารไม่ได้ ตนเองอยากขอเข้าห้องน้ำเท่านั้น จนมารู้ตัวว่าตกเป็นข่าวเพราะพี่สาวโทร. มาบอก

        ขณะที่ นางแมว ย่าของนายมาร์ค เปิดเผยยืนยันว่า หลานชายไม่เกเร เป็นคนเงียบ ๆ พูดน้อย เพื่อนน้อย ทำงานกลางคืนและมักเลยไปดื่มเหล้าต่อ จึงทำให้เบลอ ๆ ก่อนหน้านี้ก็เมาจนขี่รถไปล้ม ตนเองก็เคยเตือนแต่ไม่ฟัง ซึ่งตอนที่เห็นคลิปตนเองก็ยังเข้าใจตามที่ทุกคนเข้าใจ จึงได้รีบพาหลานมามอบตัวทันที เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธุรการหอพักได้รับมอบจากเจ้าของหอ เดินทางเข้าแจ้งความพร้อมหญิงสาวในคลิป โดยหญิงสาวเปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายมาร์ค ในความผิดฐานบุกรุกในเวลากลางวัน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เนื่องจากหอพักมีการติดป้ายประกาศชัดเจนว่าห้ามบุคคลภายนอกเข้าหอพัก โดยจะมีการนำตัวนายมาร์คส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก