อดีตโจรแนะนำ วิธีซ่อนของขั้นเทพ เก็บยังไงให้รอดยกเค้า ขโมยหาไม่เจอ

             โจรกลับใจแนะนำ วิธีเก็บของมีค่าในบ้าน ควรซ่อนอย่างไรให้ขโมยไม่รู้ พร้อมเปิดความคิดขโมย วางแผนปล้นอย่างไร และเอกสารข้อมูลส่วนตัวมีค่า ควรเก็บให้ดี

โจรกลับใจ

             ตามปกติแล้ว คนเรามักจะเก็บทรัพย์สินและข้าวของมีค่าภายในบ้าน ให้อยู่ในที่ที่เอามาใช้ได้สะดวก แต่ก็ให้พ้นหูพ้นตาคนในระดับหนึ่ง เพราะคงไม่มีใครอยากให้โจรเข้ามาเยือนบ้าน บ้างก็เก็บใส่ตู้เซฟ บางคนก็ชิล ๆ เก็บไว้ใต้หมอน และส่วนใหญ่ก็คงเก็บเอาไว้ในตู้ หรือไม่ก็ในลิ้นชัก

             แต่เมื่อเกิดเหตุโชคร้ายมีโจรปล้นบ้านขึ้นมา เหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ก็จะกวาดเอาไปหมด รื้อค้นตามตู้ ตามลิ้นชัก รวมทั้งใต้หมอนและใต้เตียง อะไรที่ซ่อนไว้ก็หายไปกับสายลม สร้างความเจ็บปวดทุกข์ใจให้กับเจ้าของทรัพย์สินไม่น้อย

             แต่ล่าสุด ได้มีคนออกมาแนะนำเคล็ดลับในการเก็บข้าวของมีค่าให้พ้นสายตาโจร ซึ่งรับประกันว่าเห็นผลแน่ ๆ แล้วผู้ให้คำแนะนำเหล่านี้คือใครกันล่ะ แน่นอนว่าคนที่รู้ใจโจรขนาดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่เคยเป็นโจรมาแล้ว !

             จากการรายงานของเดอะการ์เดี้ยน เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ระบุว่า บริษัท จอห์น ลูอิส เจ้าของธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ได้ทำการรวบรวมบุคคล 6 คน ที่เคยเป็นโจรในอดีต มาค้นคว้าวิจัยเพื่อหาค้นหาว่า สถานที่ซ่อนข้าวของมีค่าที่ดีที่สุดในบ้านคือที่ใด ต้องซ่อนตรงไหนถึงจะไม่ถูกปล้น

             อดีตมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้รับการลงโทษมาแล้ว ทางองค์กรการกศุล เซนต์ จีลส์ ทรัสต์ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาในการหางานทำ และใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ โดยคำแนะนำจากอดีตมืออาชีพด้านการยกเค้าเหล่านี้ เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อย

             อดีตขโมย เปิดเผยว่า ในบรรดาโจรด้วยกันเองนั้น มักจะมีกฎอย่างไม่เป็นทางการอยู่ข้อหนึ่งว่าห้องเด็กคือข้อยกเว้น โดยในการเข้าไปขโมยของ โจรมักจะไม่ให้ความสนใจห้องเด็ก ดังนั้นห้องเด็ก หรือกล่องใส่ของเล่นเด็ก จึงเป็นหนึ่งในที่ที่เหมาะสมในการซ่อนของมีค่า

โจรกลับใจ

             นอกจากนี้แล้ว อดีตโจรก็ยังให้ความเห็นว่า ความนิยมซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยสะดวกสำหรับขโมย และมันก็เป็นเป้าหมายที่ง่ายมาก เพราะในแต่ละวันจะมีคนสั่งของมาก และก็มีคนออกไปส่งของเยอะ

             บางครั้งแค่เดินไปเดินมาตามถนน ก็พบเห็นคนมาส่งพัสดุตามบ้าน และหลายครั้ง เจ้าของบ้านก็มักจะไม่อยู่ ถ้าไม่ได้สั่งล่วงหน้าให้ฝากเพื่อนบ้านไว้ พนักงานส่งของหรือบุรุษไปรษณีย์ก็คงวางไว้หน้าบ้าน หรือในกล่องรับพัสดุ การแวบเข้าไปด้อม ๆ มอง ๆ สำรวจดูพัสดุ จึงไม่ยากเลย ถ้าเป็นของมีค่าก็แจ็กพอต

             ส่วนการซ่อนของ อดีตโจรแนะนำว่า จากประสบการณ์ตนเองนั้น สิ่งที่เหมาะสมสำหรับซ่อนข้าวของมีค่าคือพวกกล่องใส่อาหาร เพราะเมื่อเวลาโจรขึ้นบ้าน โจรจะไม่สนใจกล่องพวกนี้ แต่ถ้าถามว่าโจรเข้าไปค้นในครัวไหม คำตอบคือเข้า เพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยมักจะซ่อนพวกกุญแจรถ หรืออะไรแบบนี้เอาไว้ในครัว

             แต่โจรขอพูดจากใจว่าการซ่อนของแบบนี้มันหาง่ายมาก เพราะส่วนใหญ่ก็เอาไว้หลังตู้เย็น ไม่ก็ในช่องเก็บของเล็ก ๆ ในลิ้นชัก ที่คิดว่าทำแล้วพ้นสายตาโจร แต่ถ้าเป็นห่อพาสต้า กล่องซีเรียล หรือกระสอบข้าว ก็รอด อย่างไรก็ตาม ไม่นับกรณีที่โจรเกิดหิว นอกจากนี้แล้ว ที่ซ่อนของที่ดีอีกอย่างก็คือ กล่องใส่แผ่นดีวีดี หรือกล่องใส่ซีดี เพราะมันค้นหาได้ยาก และโจรมักไม่สนใจไปรื้อ

             การเปิดปิดไฟของแต่ละบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่โจรให้ความสนใจ เวลาจะไปปล้นบ้าน เพราะแม้ว่าการปล้นแต่ละครั้งจะกินเวลาไม่นาน แค่ไม่กี่นาที แต่ก่อนหน้านี้โจรอาจใช้เวลาวางแผนอยู่เป็นเดือน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจดูลู่ทาง ไปจนถึงดูการเปิด-ปิดไฟ ว่าบ้านหลังนี้ปิดไฟช่วงไหนบ้าง เปิดไฟช่วงไหน หรือปิดไฟตลอด

โจรกลับใจ

             หนึ่งในอดีตโจรแนะนำว่า ถ้าหากจะเปิดไฟทิ้งไว้ ควรเปิดที่ห้องโถง และยังแนะนำว่าควรเลือกใช้สวิตช์ไฟแบบอัตโนมัติ หรือตั้งเวลาเปิด-ปิดได้ เพราะมันจะเป็นการหลอกโจรว่าในบ้านมีคนอยู่

             แต่นอกจากข้าวของมีค่าแล้ว เอกสารส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญสำหรับโจร โดยอดีตโจรบางรายชี้ว่า บางครั้งขโมยที่ขึ้นบ้านจะไม่ได้เข้าไปหอบเอาทีวี เครื่องเสียง หรืออะไรแบบนั้น แต่จะมุ่งหน้าไปรื้อค้นเอกสารของคนในบ้าน อาทิ หนังสือเดินทาง บัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรเครดิต บัญชีธนาคาร หรือเอกสารอื่น ๆ

             เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถขายได้ อีกทั้งยังเอาไปปลอมแปลงใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายได้ง่าย ดังนั้นการเก็บข้าวของเหล่านี้ในที่ที่คิดว่าโจรไม่เห็น ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

             ดร.แคลร์ นี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยด้านจิตวิทยานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ ก็ได้ให้ความเห็นสนับสนุนข้อแนะนำของโจร เกี่ยวกับการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเธอกล่าวว่า ข้อมูลส่วนตัวที่ดูเหมือนเรื่องธรรมดา จะกลายเป็นของที่มีค่าเป็นอย่างมากในทันทีเมื่อมันถูกขโมยเอาไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสวมบัตรประชาชน หรือปลอมแปลงตัวตนเพื่อใช้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ไปจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ด้านการค้ามนุษย์

             ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอยากให้แนะนำให้ทุกคนให้ความสำคัญและระมัดระวังกับข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง รวมถึงระวังการสนทนากับใครสักคน หรือการคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะ เพราะเนื้อหาอย่าง เช่น บ้านเราอยู่แถวย่านไหน เราจะไปเที่ยวนานแค่ไหน กี่วัน มันอาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ใครจะรู้ว่าแถวนั้นอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีนั่งฟังอยู่แบบหูผึ่ง และอาจจะเข้าไปยกเค้าบ้านเราอย่างสบายแฮ ก็เป็นได้



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อดีตโจรแนะนำ วิธีซ่อนของขั้นเทพ เก็บยังไงให้รอดยกเค้า ขโมยหาไม่เจอ อัปเดตล่าสุด 5 สิงหาคม 2562 เวลา 14:01:55 74,343 อ่าน
TOP
x close