ป้าพิการหัวไว จะโดนฆ่าชิงทรัพย์ ต่อรองโจรไม่ขอฆ่าโหด แถมรอดเพราะแกล้งตาย

         ป้าพิการขี่วินมอเตอร์ไซค์ ถูกปล้นชิงทรัพย์ โจรบอกจำเป็นต้องฆ่า ต่อรองขอไม่เอาไม่ปาดคอ โจรรับปากและใช้หมวกกันน็อกทุบหัวแทน จนแน่นิ่ง ที่แท้ป้าแกล้งตาย ด้านพี่สาวโจรวอนสังคมอภัย น้องชายเป็นคนดี



        น.ส.จิราภา สุภาพร อายุ 40 ปี พี่สาวของนายศักดิ์นรินทร์ ผู้ต้องหา เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า น้องสาวของป้าจ๊อด ผู้เสียหาย ได้มีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่าน้องชายของตนโหดร้าย เคยฆ่าคนมาแล้วหลายศพ ตนอยากชี้แจงว่าน้องชายของตนไม่เคยก่อเหตุแบบนั้น เป็นคอมเมนต์ที่กล่าวหากันเกินไป จากการสอบถามน้องชาย เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ได้เสพยาเสพติด ทำให้สติไม่อยู่กับตัว จึงลงมือก่อเหตุ

        ทางด้าน นางชูศรี หรือป้าจ๊อด ผู้เสียหาย ให้การคนละเรื่องกับ น.ส.จิราภา โดยเล่าว่าในตอนเกิดเหตุ นายโอ๋โบกเรียกตนให้จอด อ้างว่ารถเสีย และขอให้ขี่รถพาไปส่งหาคนช่วยเหลือ จนหลงเชื่อและได้ขี่พาไป กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี นายโอ๋ได้ใช้อาวุธมีดจี้ที่คอของตน ขอรถจักรยานยนต์ ถ้าไม่ยอมจะฆ่าให้ตาย แต่ตนปฏิเสธนายโอ๋จึงเอาผ้ามามัดขา และมัดแขน บอกให้นอนลงต้นโคนต้นปาล์มตรงนี้ เดี๋ยวกลับมา ตนถามว่าทำแบบนี้ทำไม จะทำอะไร นายโอ๋ก็บอกว่าคงต้องปาดคอป้าให้ตาย เพราะป้าเห็นหน้าแล้ว กลัวจะไปแจ้งตำรวจ

        ขณะที่ นายโอ๋ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองประกอบอาชีพกรีดยาง ในตอนเกิดเหตุ ตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมา แล้วเกิดน้ำมันหมด ตนพบเห็นคนพิการขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี และเกิดความรู้สึกโลภ อยากได้ทรัพย์สิน จึงโบกเรียก ก่อนใช้มีดจี้ที่คอเพื่อจะชิงทรัพย์ ยอมรับว่าใช้มีดจะปาดคอผู้เสียหาย รวมทั้งใช้หมวกกันน็อกทุบตีศีรษะไปหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ 2 ครั้ง ก่อนลักทรัพย์และขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไปกบดานที่ จ.จันทบุรี

        นายโอ๋ยอมรับว่า ตอนแรกตนไม่ได้คิดจะฆ่าป้าจ๊อดให้ตาย แต่กลัวผู้เสียหายจดจำรูปพรรณสัณฐานได้ แล้วไปแจ้งตำรวจ ตนจึงใช้หมวกกันน็อกทุบศีรษะไปจนคิดว่าเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้แล้ว นายโอ๋ยังได้เข้ากราบขอขมาผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายก็ให้อภัย และหวังว่าจะกลับเนื้อกลับตัว