เกิดเหตุกราดยิงที่ห้างวอลมาร์ท ในรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา คนร้ายเป็นชายผิวขาว ถือปืนไรเฟิลบุกยิงคนไม่เลือกหน้า คร่า 20 ชีวิต บาดเจ็บ 26 ราย
วันที่ 4 สิงหาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงภายในซูเปอร์มาร์เกตวอลมาร์ท (Walmart) ที่เมืองเอลปาโซ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา โดยคนร้ายเป็นชายผิวขาว อายุ 21 ปี ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า เขาสวมที่ครอบหูป้องกันเสียง เดินถือปืนยาว ลักษณะคล้ายปืนไรเฟิล เข้าไปกราดยิงผู้คน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 26 ราย และมีผู้เสียชีวิต 20 ราย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุกราดยิงในเวลา 10.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 22.39 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเกรก อัลเลน ผู้บัญชาการตำรวจนครเอลปาโซ เปิดเผยว่า ในตอนเกิดเหตุ มีประชาชนเข้าไปจับจ่ายใช้สอยที่ซูเปอร์มาร์เกตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่เข้าไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลาน เนื่องจากใกล้เปิดภาคเรียนแล้ว ซึ่งประชาชนผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างแตกตื่นตกใจ และพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด
จุดเกิดเหตุนั้น เป็นชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายละตินอเมริกา โดยเฉพาะชาวเม็กซิกัน เนื่องจากเป็นเมืองชายแดนติดต่อกับประเทศเม็กซิโก แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต แต่นายมานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ได้ออกมากล่าวว่า ในจำนวนเหยื่อกราดยิงครั้งนี้ พบว่าเป็นชาวเม็กซิกัน 9 ราย ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 3 ราย
คนร้ายผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว ทราบชื่อคือ แพทริค ครูเซียส (Patrick Crusius) จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีพื้นเพเป็นชาวเมืองอัลเลน ห่างจากเมืองเอลปาโซ ประมาณ 1,046 กิโลเมตร ตำรวจสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการยิงใส่คนร้ายขณะจับกุม
ตอนนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัดในการก่อเหตุ รวมถึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายตั้งใจจู่โจมกลุ่มคนเชื้อสายละตินอเมริกาหรือไม่ แต่มีการพบบทความที่มีเนื้อหาแนวคลั่งขวาจัดและคลั่งผิวขาวบนสังคมออนไลน์ สันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นคนเขียน ขณะนี้ทางตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ (FBI - Federal Bureau of Investigation) กำลังเร่งสืบสวนเรื่องนี้แล้ว
ทางด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า เหตุกราดยิงที่เอลปาโซ ไม่ได้เป็นแค่โศกนาฏกรรมสลดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระทำที่ขี้ขลาดตาขาว มันไม่มีเหตุผลจำเป็นหรือข้ออ้างใด ๆ ในการสังหารผู้บริสุทธิ์ ตนและประชาชนชาวอเมริกันขอประณามการกระทำอันเต็มไปด้วยความเกลียดชังครั้งนี้
ขณะนี้ทางรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่นรัฐเทกซัส กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และครอบครัวเหยื่อผู้ประสบเหตุแล้ว รวมทั้งได้มีการประกาศขอรับบริจาคเลือดให้แก่ผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีประชาชนเดินทางเข้ามาบริจาคเลือดกันเป็นจำนวนมาก
