รู้หรือไม่ พนง. เดลิเวอรี่ 1 ใน 4 ยอมรับ เคยจิ๊กอาหารลูกค้ากิน ก่อนส่งถึงมือลูกค้า

 

           ผลสำรวจชี้ พนง. เดลิเวอรี่ อเมริกัน 1 ใน 4 ยอมรับ เคยจิ๊กอาหารลูกค้ากิน ก่อนส่งถึงมือลูกค้า พบเกินครึ่งโดนกลิ่นหอมยั่ว ๆ ป่วนใจ อยากชิมดูบ้าง แต่ก็มีบางส่วนที่ลงมือกินจริง ๆ



             หลายคนอาจจะเดาถูก แน่นอน ! มันต้องมีกันบ้าง จากการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้โดย US Foods ในสหรัฐฯ พบว่าพนักงานส่งอาหารจำนวนมากถึง 54% ได้ยอมรับ ว่ากลิ่นอาหารหอมยั่วน้ำลายของลูกค้านั้น ทำให้พวกเขาคิดอยากชิมกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่น่าตกใจก็คือ มีพนักงานส่งอาหารถึง 28% จากผู้ที่ถูกสอบถามทั้งหมด ยอมรับว่าพวกเขาเคยแอบจิ๊กอาหารของลูกค้ากินจริง ๆ

             โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าว NPR และ CBS News รายงานว่า ในการสำรวจดังกล่าว US Foods ได้รวบรวมข้อมูลจากพนักงานส่งอาหารกว่า 500 คน และลูกค้ากว่า 1,500 คน ที่เคยใช้บริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ต่าง ๆ เช่น DoorDash, Postmates, Grubhub และ UberEats ในสหรัฐฯ โดยผู้ที่ตอบแบบสอบถามนั้นมีอายุตั้งแต่ 18-77 ปี คิดเป็นอายุเฉลี่ย 31 ปี

             ในขณะที่เราได้รู้แล้วว่า มีพนักงานส่งอาหารถึง 28% ที่ยอมรับว่าเคยแอบกินอาหาร ก่อนจะส่งถึงมือลูกค้า จึงไม่ต้องสงสัยเลยที่ความต้องการของลูกค้าส่วนถึง 85% คือการแนะนำให้ผู้ให้บริการ หามาตรการในการบรรจุอาหารอย่างแน่นหนา เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารจะถูกส่งมาถึงมือพวกเขาอย่างครบถ้วน ไม่ถูกแกะเปิด หรือแม้แต่ถูกใครแอบกินไปเสียก่อน

             แม้ผู้ให้บริการบางราย จะให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า โดยบอกว่าหากสงสัยว่ามีอาหารหายไปหรือถูกแอบกิน ทางบริษัทจะสอบสวนและคืนเงินให้ รวมถึงดำเนินการลงโทษพนักงานส่งอาหารรายนั้น ๆ แต่ลูกค้าส่วนมากก็ยังเชื่อว่าน่าจะป้องกันตั้งแต่ต้นทาง หาอะไรมาปิดซีลภาชนะให้เรียบร้อยตั้งแต่แรกน่าจะดีกว่า

             เมื่อถามดูว่าลูกค้าจะโอเคไหม กับการที่พนักงานแอบจิ๊กเฟรนช์ฟรายกินสัก 1-2 ชิ้นก่อนถึงมือเรา โดย 1 คะแนน คือ "ไม่ใช่เรื่องใหญ่" ส่วน 10 คะแนน คือ "รับไม่ได้สุด ๆ" พบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนในส่วนนี้ คือ 8.4 จาก 10 คะแนน

             อนึ่ง เมื่อพิจารณาดูจากสาเหตุที่ทำให้พนักงานส่งอาหารแอบกินอาหารของลูกค้า นอกจากจะเป็นเรื่องของกลิ่นหอมยั่วใจ ก็อาจจะมี "ความหิว" มาเป็นส่วนประกอบหลัก โดยพบว่าพนักงานส่งอาหารสามารถทำเงินได้เฉลี่ย ชั่วโมง 13 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 400 บาท) ในขณะที่พวกเขาต้องหาเงินให้ได้ถึง ปีละ 25,750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 792,000 บาท) เพื่อให้เพียงพอแก่การเลี้ยงปากท้องครอบครัวขนาด 4 คน นอกจากรายได้ที่น้อยนิดแล้ว พนักงานส่งอาหารก็มักจะไม่ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการดูแลสุขภาพด้วย