หมอรามาฯ เผยสาเหตุหนุ่มตาย เพราะยาฆ่าหญ้า พบจุดอ่อนคือไหลเข้าอัณฑะ

          หมอรามาฯ เผย หนุ่มตายใน 8 วัน เพราะยาฆ่าหญ้าไหลรดหลัง คาด อาจเป็นเพราะร่างกายมีแผล หรือต่อให้ไม่มีแผล ก็อาจจะไหลเข้าอัณฑะ รับสารมากเกินไปจนเสียชีวิตในที่สุด


          จากกรณีที่  พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม แพทย์อายุรกรรมและโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ได้โพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์เตือนใจเกษตรกร หลังจากที่หนุ่มคนหนึ่ง สะพายถังเพื่อฉีดยาฆ่าหญ้า แต่ปรากฏว่าถังแตก แล้วพาราควอต ซึ่งเป็นยาฆ่าหญ้า ไหลลงหลังและก้น ก่อนที่หนุ่มคนนี้จะเสียชีวิตในอีก 8 วันต่อมา (อ่านเพิ่มเติม อุทาหรณ์ หนุ่มโดนยาฆ่าหญ้ารดก้น - หลัง เสียชีวิตใน 8 วัน ทุรนทุรายก่อนตาย)

          ล่าสุด (9 สิงหาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ศาสตราจารย์ นพ.วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยว่า พาราควอตเองเป็นยาฆ่าหญ้า มีฤทธิ์กัดกร่อน หากถูกร่างกายอาจจะแสบ แต่พาราควอตเอง ซึมเข้าผิวหนังได้ไม่ดี หากถูกพาราควอตแล้วล้างออกทันที ก็จะไม่มีอันตราย แต่หากถูกในผิวหนังที่เป็นแผล จะทำให้สารเคมีซึมสู่ร่างกายทันที และเกษตรกรส่วนมาก มักไม่ให้ความสำคัญกับสารชนิดนี้ ปล่อยให้สารเปื้อนเสื้อผ้าจนชุ่ม และติดร่างกายตลอดเวลา


          นอกจากนี้ เกษตรกรยังผสมพาราควอตจนเข้มข้น ทำให้ระคายเคือง การสัมผัสสารชนิดนี้อาจจะไม่อันตรายทันที แต่หากถูกซ้ำ ๆ ผิวหนังจะแสบคล้ายโดนกรด จนเป็นแผล และจุดที่พาราควอตเข้าร่างกายได้ง่ายแม้ว่าจะไม่เป็นแผลคือ อัณฑะ และแผลเย็บฝีในผู้หญิง บางรายอาจทำให้ไตทำงานผิดปกติ มีของเสียคั่งในร่างกายมาก

          จากนั้น 1 สัปดาห์ จะเกิดอาการอาเจียน เพื่อพาราควอตเข้าสู่ตับ จะเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ปอดอักเสบ และเสียชีวิต

          ผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลในเรื่องนี้ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาธิบดี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสายด่วน 1367
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก