รองประธานวิปรัฐบาล แนะ พปชร. ควรเร่งทำความเข้าใจพรรคร่วม ปรับการบริหารจัดการ เคลียร์ให้ชัดทุกประเด็น ร่างกฎหมาย ก่อนเข้าสู่ที่ประชุม แก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำในสภา
ดังนั้น ในการพิจารณาประเด็นต่าง ๆ รวมถึงร่างกฎหมายสำคัญ หากชนะหรือแพ้เพียง 1-2 เสียง อาจมีปัญหาได้ในอนาคต ขณะที่การลงมติในข้อ 9 (1) วิปรัฐบาลส่งสัญญาณว่า ให้ ส.ส. ลงมติไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ใช่เนื้อหาที่ควรอยู่ในหมวดว่าด้วยประธานสภา รวมถึงหน้าที่และอำนาจประธานสภา และที่น่ากังวลคือ เมื่อ กมธ. ยอมรับการบัญญัติถ้อยคำตามที่พรรคฝ่ายค้านเสนอคำแปรญัตติ อาจจะถูกยกเป็นประเด็นประท้วงประธานที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในการควบคุมการประชุมในกรณีวางตัวไม่เป็นกลาง ทั้งที่พฤติกรรมของการทำหน้าที่ไม่เป็นกลางนั้นไม่สามารถอธิบายหรือวินิจฉัยในรายละเอียดที่ชัดเจนได้ ดังนั้น เมื่อยืนยันการเพิ่มเติม อาจถูกยกไปประท้วงการทำหน้าที่ของประธานได้
โดยในสัปดาห์หน้า การประชุมวิปรัฐบาลจะต้องคุยเรื่องการบริหารจัดการ และข้อตกลงในการพิจารณาประเด็นและร่างกฎหมายที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภา ไม่ใช่คุยแค่ว่าจะให้รับหลักการเท่านั้น เพราะในบางประเด็นมีรายละเอียดที่ต้องลงมติเพื่อตัดสิน ดังนั้น สิ่งที่ตนเคยเสนอ และเตรียมจะเสนออีกครั้ง คือ การพิจารณาแต่ละเรื่องต้องมีธงที่ชัดเจนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณาไปแล้วถึงสื่อสารกันภายหลัง หรือใช้การตัดสินใจในห้องประชุมสภา เนื่องจากฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนพรรครัฐบาลต้องเร่งการบริหารจัดการเสียงให้มีความเป็นเอกภาพ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก