หนุ่มเล่าประสบการณ์ปวดท้องบนทางด่วน จะลงข้างล่างก็ยังไม่ได้ พร้อมเล่าวิธีแก้ปัญหา ชี้ ทุกด่านจ่ายเงินจะมีห้องน้ำ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอสถานการณ์ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำกะทันหัน แต่สถานที่ที่เราอยู่นั้น ไม่มีห้องน้ำให้เข้าเลย โดยเฉพาะสถานที่ที่ชื่อว่า ทางด่วน อยู่บนที่สูงแบบนี้ ถนนล้วน ๆ ไม่มีที่ให้หยุดพักเลย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 เฟซบุ๊ก Yotsapon Papakdee มีการเล่าเรื่องราวการปวดท้องบนทางด่วน พร้อมกับวิธีการแก้ปัญหา มีคนแชร์มากกว่า 3 พันครั้ง มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
"รีวิว ปวดขี้ บนทางด่วน ทุกด่านจ่ายตังค์จะมีห้องน้ำ อย่าไปปล่อยริมทางนะ
วันนี้ผมเดินทางจากรังสิตเข้ามาในเมือง ใช้ดอนเมืองโทลเวย์ ในช่วงเวลา 07.30 น. ก่อนทางขึ้นทางด่วนตรงอนุสรณ์สถาน รถติดมาก ขี้เริ่มมา พอขึ้นมาได้ ก็ปวดแทบจะทะลวง ขับอย่างเร็ว แต่ได้เร็วสุดแค่ 90 ใกล้ด่านจ่ายตังค์ ตรงป้าย 1 กม. ขนเริ่มลุก รถกลับมาติดอีกครั้งเพราะด่านจ่ายเงิน รถค่อย ๆ ไหลทีละนิด ผมเริ่มปิดแอร์ มองดูทางซ้ายสุดริมรั้วว่ามีท่อระบายน้ำหรือเปล่า (ผมขับเลนซ้ายสุด) ปรากฏว่าไม่มี เพราะรางระบายน้ำอยู่เลนกลาง (sadddddd)
ระยะทางใกล้ถึงด่านจ่ายเงิน ผมเริ่มปลดเข็มขัด ขนเริ่มลุกรอบที่เท่าไหร่จำไม่ได้ หายใจถี่ขึ้น พยายามคิดเรื่องอื่น แต่ก็ทำได้ยาก เพราะมีลมที่กำลังดันตัวออกมา แต่ผมไม่กล้าปล่อยลม กลัวจะมีชิ้นเนื้อออกมาด้วย
การกลั้นขี้ และตดพร้อมกัน เป็นอะไรที่ทรมานมาก เพราะจะปวดท้องเกร็ง และยังต้องขมิบตูดเพื่อไม่ให้ลมและชิ้นออกมาพร้อมกัน
พอถึงด่านจ่ายเงิน เลยถามเจ้าหน้าที่ว่า มีห้องน้ำไหมครับ เจ้าหน้าที่ก็น่ารัก แนะนำว่า อยู่ตรงหลังตู้พัก แต่ต้องเดินลงนะคะ
จากนั้นผมไม่รีรอ รีบบึ่งรถไปที่ตู้พัก (ไปเร็วไม่ได้ เพราะรถติด)
จอดรถแล้วรีบดับเครื่อง เปิดไฟฉุกเฉิน แล้ววิ่ง !
วิ่งไปได้นิด ก็ต้องเดินเพราะมันจะทะลวงแล้ว แล้วก็เดินมาถึงทางลง โดยประมาณ 20 เมตร ลงมาก็เจอป้ายบอกทางไปห้องน้ำ เด่นชัดมากเดินตามไม่หลงแน่นอน
พอถึงห้องน้ำก็มีพี่ รปภ. และเจ้าหน้าที่บอกว่า เชิญครับ เชิญเข้าห้องน้ำทางนี้ครับ
ห้องน้ำเป็นลักษณะห้องน้ำรวม มีโถฉี่ 2 โถ อ่างล้างมือ 2 อ่าง และห้องที่เป็นชักโครกอีก 2 ห้อง มีที่ฉีดตูด และที่สำคัญมีความสะอาด จากนั้นผมก็ไม่รีรออะไรทั้งสิ้น รีบปลดกระดุมกางเกงซิปและรีบปล่อยออกมาทันที
ป.ล. กระดาษทิชชูมีให้ดึงอยู่ด้านนอก แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็พกทิชชูเข้าไปด้วยจะดีที่สุดครับ"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Yotsapon Papakdee
