ชาวบ้านสุโขทัยสุดเฮงพบ ข้าวตอกพระร่วง ศักดิ์สิทธิ์ตามคำอธิษฐานของพระร่วง มาแต่โบราณ ขณะถางหญ้าอยู่หลังบ้าน พ่อค้าแห่รับซื้อส่งต่างประเทศ
ภาพจาก ไทยโพสต์
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ไทยโพสต์ รายงานว่า ที่บริเวณสวนหลังบ้านของชาวบ้านรายหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 12 ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เจ้าของบ้านพร้อมด้วยญาติและเพื่อนบ้านได้พากันมาเดินหาเก็บหิน "ข้าวตอกพระร่วง" หนึ่งในวัตถุมงคลชื่อดังอันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย หลังจากที่เจ้าของบ้านไปพบเข้าโดยบังเอิญขณะนั่งถางหญ้า และสังเกตเห็นว่ามีโผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน กระจายอยู่จำนวนมากภายในสวนดังกล่าว
จากการสอบถามชาวบ้าน ได้ความว่า "ข้าวตอกพระร่วง" หรือเพชรหน้าทั่ง หรือแร่เหล็กไพไรต์ ถือเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋า ตามตำนานเชื่อว่าเกิดจาก "พระร่วงวาจาสิทธิ์" เมื่อครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่าให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหิน มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน ชาวบ้านเชื่อว่าใครมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายขึ้น และอยู่ดีมีสุข
จากการสอบถามชาวบ้าน ได้ความว่า "ข้าวตอกพระร่วง" หรือเพชรหน้าทั่ง หรือแร่เหล็กไพไรต์ ถือเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋า ตามตำนานเชื่อว่าเกิดจาก "พระร่วงวาจาสิทธิ์" เมื่อครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่าให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหิน มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน ชาวบ้านเชื่อว่าใครมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายขึ้น และอยู่ดีมีสุข
ภาพจาก ไทยโพสต์
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา "ข้าวตอกพระร่วง" นับเป็นของหายากที่เซียนพระตามหา แต่กลับพบเจออยู่เป็นจำนวนมากที่บริเวณสวนหลังบ้านดังกล่าว จึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจ และรีบพากันมาเก็บใส่ถุงเอาไปขายได้เป็นร้อยก้อน โดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่บ้าน ก่อนนำส่งขายต่อที่ประเทศมาเลเซีย โดยบางส่วนก็ได้นำไปประกอบพิธีปลุกเสกให้ประชาชนได้เช่าบูชาตามวัดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังนิยมนำไปทำเป็นเครื่องประดับสวมใส่เพื่อความสวยงามด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ "ข้าวตอกพระร่วง" นั้น เป็นที่นิยมกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดมีไว้ถือว่าเป็นสิริมงคล มีความสุขความเจริญด้วย โภคทรัพย์ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังนิยม นำมาฝนกับ แผ่นกระเบื้องบดยาหยดน้ำลงไปด้วย ขณะที่ฝนแล้วนำน้ำนั้นมาทาบริเวณที่ถูกพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ก็จะหายจากอาการเจ็บปวดอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง โดยในอดีตเฒ่าคนแก่ที่กินหมากนั้น จะนิยมนำข้าวตอกพระร่วงมาใส่ปนกับสีผึ้งทาปาก ตลับละหนึ่งถึงสองเม็ด เพราะเชื่อว่ามีเมตตามหานิยม
นอกจากนี้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเกจิชื่อดัง เคยแจกแร่พระร่วงนี้เมื่อปี 2518 พร้อมระบุว่า แร่นี้มีคุณสมบัติเท่าที่ทราบจากพระธุดงค์ที่เคยประสบมา คือ
1. เมื่อจะใช้ท่านให้อาราธนาพระร่วงแล้วอมไว้ เดินทางตลอดวันไม่กระหายน้ำ
2. พระธุดงค์อีกคณะหนึ่งแจ้งว่า เมื่อเดินธุดงค์เพื่อนเกิดท้องร่วง ไม่มียาจึงเสี่ยงเอาแร่พระร่วงใส่กาต้มน้ำแล้วเอาน้ำให้ฉัน พระองค์ที่ป่วยหายจากอาการท้องร่วงทันที
3. เมื่อปี 2516 พระปลัดฉ่อง แห่งอำเภอสรรค์บุรี จังหวัดชัยนาท ได้ทำเป็นแหวนแจก หนึ่งในผู้ที่รับไปถูกโจรปล้นควายยิงด้วยปืนพกและลูกซอง ปรากฏว่าไม่มีแผล โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีพระอะไรอื่น นอกจากแร่พระร่วงเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก