ไฟป่า ป่าแอมะซอน สร้างสถิติน่าตกตะลึง เฉพาะปี 2562 ไฟป่ามา 72,000 ครั้ง ครั้งล่าสุดวิกฤตหนัก ไฟป่า 16 วัน ยังไม่ดับ กลุ่มควันดำหนาทำบราซิลมืดทั้งเมือง
วันที่ 21 สิงหาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ดาวเทียมสำรวจของสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล หรือไอเอ็นพีเอ (INPE - Instituto Nacional de Pesquisas Espaciais) ได้เก็บข้อมูลไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าแอมะซอน ป่าดิบชื้นและป่าฝนเขตร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผลการวิเคราะห์ข้อมูลได้เผยให้เห็นสถิติที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจำนวนไฟป่าที่เกิดขึ้นในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 83 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลกระทบทั้งในด้านระบบนิเวศและสังคมของมนุษย์
สถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล เปิดเผยว่า ดาวเทียมได้สำรวจการเกิดไฟป่าที่ป่าแอมะซอน ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2562 พบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่า 72,000 ครั้ง เป็นตัวเลขที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา แค่ในช่วงเวลาไม่กี่วัน ตั้งแต่วันที่ 15 - 21 สิงหาคม 2562 ก็เกิดไฟไหม้ป่ามาแล้วมากกว่า 9,500 ครั้ง
นอกจากนี้แล้ว ภาพจากดาวเทียมยังเผยให้เห็นว่า พื้นที่ป่าแอมะซอนในเขตแดนของประเทศบราซิล ประสบปัญหาไฟไหม้สาหัสหลายส่วน โดยพื้นที่ป่าในรัฐโรมาล้วนปกคลุมด้วยกลุ่มควันหนาทึบ ขณะที่ทางการรัฐอามาโซนัส ก็ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านไฟป่าแล้ว
ปกติแล้ว ไฟป่าตามธรรมชาติมักจะเกิดขึ้นในฤดูที่สภาพอากาศแห้ง แต่ไฟป่าจำนวนไม่น้อยก็เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ โดยเฉพาะการลักลอบรุกป่าเพื่อใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์ หรือแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร ซึ่งเป็นการทำร้ายป่าแอมะซอนโดยตรง และสร้างผลกระทบอย่างมาก
ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลบราซิลหลายต่อหลายสมัยพยายามแก้ไขมาโดยตลอด แต่มันก็ได้แย่ลง นับตั้งแต่ นายฌาอีร์ โบลโซนาโร ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของนายโบลโซนาโรก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ทั้งการเอื้อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า กระตุ้นให้ประชาชนออกไปรุกป่าเพื่อการเกษตร รวมไปถึงการกล่าวหาว่าไอเอ็นพีอีพูดเกินจริงเรื่องจำนวนพื้นที่ป่าที่ลดลง และล่าสุดเขาก็เพิ่งสั่งปลดผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล ด้วยปมเรื่องข้อมูลการถางป่า
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดก็นับได้ว่าน่ากังวล และไฟก็ยังคงลุกลามกินพื้นที่หลายส่วน ติดต่อกันมาร่วม 16 วัน
ในวันที่ 19 สิงหาคม กระแสลมแรงได้พัดพากลุ่มควันจากไฟป่าลงใต้ หอบควันลงไปไกลถึงรัฐเซาเปาลู ซึ่งห่างจากป่าอเมซอนร่วม 2,700 กิโลเมตร ควันอันหนาแน่นนี้ส่งผลให้เมืองเซาเปาลูตกอยู่ในความมืดสลัวเป็นชั่วโมง และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้เลยว่าไฟป่าจะดับลงเมื่อใด
