เข็ดจนตาย ! สาวดูดไขมันหน้าท้อง สุดท้ายป่วยติดเตียง หมดเงินรักษาเฉียดล้าน

           สาวเล่าประสบการณ์เกือบตาย ดูดไขมันหน้าท้องหมดเป็นแสน หวังผอมใส่เสื้อผ้าสวย สุดท้ายแผลติดเชื้อ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง นอนไอซียูครึ่งเดือน ค่ารักษาเฉียดล้าน ไร้เยียวยา พ้อ ถ้าย้อนเวลาได้คงไม่ทำ

          จากกรณีหญิงคนหนึ่ง ตกเป็นเหยื่อการทำศัลยกรรม หลังไปดูดไขมันหน้าท้องที่โรงพยาบาลศัลยกรรมแห่งหนึ่ง จนเกิดการติดเชื้อ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หมดเงินรักษาตัวเกือบล้าน ซ้ำไร้การเยียวยาใด ๆ

          วันที่ 23 สิงหาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า หญิงวัย 46 ปี คนหนึ่ง ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังตนเองตกเป็นเหยื่อการทำศัลยกรรม สุดท้ายแผลติดเชื้อ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หมดเงินรักษาตัวเกือบล้าน ซ้ำไม่ได้รับการเยียวยาใด ๆ

          โดยเธอเล่าว่า ตนอยากดูดไขมันที่หน้าท้อง เพื่ออยากจะให้บุคลิกดีขึ้น และใส่เสื้อผ้าได้สวย ๆ จึงได้ไปทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตกลงกันในราคา 75,000 บาท หากรีวิวด้วยจะลดให้เหลือ 69,000 บาท

          จากนั้นวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ตนไปเจาะเลือด และขณะเข้ารับการดูดไขมัน แพทย์แนะนำว่าต้องผ่าตัดไขมันเพิ่ม เพื่อให้หน้าท้องกระชับ แต่ค่ารักษาจะอยู่ที่ 280,000 บาท หากมีรีวิวหลังผ่าตัด จะลดให้เหลือ 210,000 บาท แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จ ตนเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกและเหนื่อยง่าย สอบถามพยาบาลได้รับคำตอบว่า ตนมีอาการปอดแฟบ มีภาวะแทรกซ้อน ต้องพักฟื้นเกือบ 1 สัปดาห์ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลงเรื่อย ๆ เริ่มเจ็บชายโครงด้านซ้าย แผลที่หน้าท้อง และเจ็บขาทั้ง 2 ข้าง


         เมื่อเอกซเรย์ปอดก็พบว่าปอดข้างซ้ายแฟบลง ขาทั้งสองข้างเริ่มบวมขึ้น และเจ็บกระบังลมอย่างแรง แพทย์จึงย้ายตนไปอีกโรงพยาบาล เนื่องจากพบมีลิ่มเลือดดำอุดตัน ซึ่งต้องนอนในห้องไอซียูนานเกือบ 2 สัปดาห์

         จากวันนั้นจนถึงขณะนี้ ตนยังไม่ได้รับคำตอบจากแพทย์ที่ทำศัลยกรรมว่าตนเป็นอะไร รู้เพียงว่ามีผลข้างเคียงจากการดูดไขมัน และผ่าตัดไขมันหน้าท้อง ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่มีการเยียวยาใด ๆ


         ทั้งนี้ ตนอยากบอกว่า หากย้อนกลับไปได้จะไม่ทำเลย จากคนที่เดินได้ต้องมานอนป่วยติดเตียง เหมือนเดินเข้าไปหาความตาย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก