ณรงค์ชัย คุณปลื้ม แจงละเอียดยิบ เหตุน้ำทะเลบางแสน เขียวอี๋
ส่งกลิ่นเหม็น มีขยะเกลื่อนชายหาด แถมปลาตาย
เกิดจากปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม
โดยระบุข้อความ ดังนี้... จากเหตุการณ์ที่พบน้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสนมีสีเขียวเข้ม และมีกลิ่นค่อนข้างแรง ในช่วงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562 เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือ แพลงก์ตอนบลูม (Red tide) เกิดจากสาหร่ายเซลล์เดียวหรือแพลงก์ตอนพืชเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้สีของน้ำทะเลเปลี่ยนไปจากสีปกติ ซึ่งในครั้งนี้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวเข้ม เนื่องจากสีของสารสี (คลอโรฟิลล์เหมือนในพืช) ที่อยู่ในเซลล์นั่นเอง และอาจพบสีอื่น ๆ ได้ เช่น สีแดง สีน้ำตาล และสีเหลือง เป็นต้น
ในอดีตชาวประมงที่พบเห็นจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "ขี้ปลาวาฬ"
โดยเกิดจากแพลงก์ตอนพืช สกุล Noctiluca มีลักษณะทรงกลม ภายในเซลล์มีสีเขียว
ขนาดประมาณ 0.5-0.7 มิลลิเมตร สามารถมองเห็นเป็นเม็ดกลม ๆ
สีเขียว ด้วยตาเปล่า ในบริเวณผิวหน้าน้ำ แพลงก์ตอนพืชสกุลนี้ไม่เป็นอันตราย
เนื่องจากไม่สร้างสารพิษ แต่การที่น้ำทะเลมีกลิ่นค่อนข้างแรง
เนื่องจากภายในเซลล์มีสารแอมโมเนียค่อนข้างมาก
เมื่อเซลล์แตกจากคลื่นหรือเซลล์ตายลง
จะมีการปลดปล่อยแอมโมเนียออกมาและส่งกลิ่นเหม็นนั่นเอง
โดยปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ปกติจะเกิดขึ้นทุกปี ปีละประมาณ 2-3 ครั้ง
ระยะต่อเนื่อง 3-5 วัน โดยมักพบช่วงหลังฝนตก
เนื่องจากมีการชะล้างสารอาหารลงสู่น้ำทะเลชายฝั่ง และมีอุณหภูมิ ความเค็ม
และความเข้มแสงที่เหมาะสม จึงทำให้แพลงก์ตอนพืชเพิ่มจำนวน
และเมื่อสารอาหารลดลง เซลล์จะลดลง และปรากฏการณ์นี้จะหายไป
ใครไปทะเลบางแสนตอนนี้อาจจะต้องตกใจ
เมื่อได้เจอกับน้ำทะเลสีเขียวอี๋ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย
โดยโลกโซเชียลมีนักท่องเที่ยวโพสต์ภาพและคลิปทะเลบางแสน
ซึ่งนอกจากน้ำจะเขียวมากแล้ว ยังมีขยะเกลื่อนและมีปลาตายบนชายหาดอีกด้วย
ทั้งนี้ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี
ได้ออกมาเปิดเผยว่า เป็นปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือ แพลงก์ตอนบลูม
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี อีกทั้งในช่วงนี้ของปี
มรสุมจะพัดพาเศษขยะต่าง ๆ จากปากแม่น้ำมากองที่ชายหาดจำนวนมาก
โดยระบุข้อความ ดังนี้... จากเหตุการณ์ที่พบน้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสนมีสีเขียวเข้ม และมีกลิ่นค่อนข้างแรง ในช่วงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562 เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือ แพลงก์ตอนบลูม (Red tide) เกิดจากสาหร่ายเซลล์เดียวหรือแพลงก์ตอนพืชเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้สีของน้ำทะเลเปลี่ยนไปจากสีปกติ ซึ่งในครั้งนี้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวเข้ม เนื่องจากสีของสารสี (คลอโรฟิลล์เหมือนในพืช) ที่อยู่ในเซลล์นั่นเอง และอาจพบสีอื่น ๆ ได้ เช่น สีแดง สีน้ำตาล และสีเหลือง เป็นต้น
ส่วนการพบสัตว์น้ำขนาดเล็กตายบริเวณชายหาด
เพราะเนื่องจากเมื่อแพลงก์ตอนพืชตายลง
ซากจะถูกแบคทีเรียใช้ออกซิเจนในน้ำในการย่อยสลาย จึงทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง
ส่งผลให้สัตว์น้ำขนาดเล็กขาดออกซิเจนและตายลง
นอกจากนี้การขึ้น-ลงของน้ำทะเลและกระแสลมในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
มีกำลังแรงพัดลมทิศทางเข้าสู่ฝั่ง
เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้มวลของแพลงก์ตอนพืชถูกพัดเข้าสู่ฝั่งในบริเวณชายฝั่งบางแสน
โดยในปี 2562 บริเวณชายหาดบางแสน
พบการเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสีมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง คือ เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม
กรกฎาคม และล่าสุด สิงหาคม และคาดว่าอีก 1-2 วัน
สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @savethailay
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @savethailay
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก