ตาเผยหลานวัย 14 สมองช้า ถูกไอ้ขี้ยาผัวเมีย บุกจี้ข่มขืนหลายรอบ ทั้งในบ้าน และจุดทิ้งขยะ แถมก่อนหน้ายังถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน ชี้หลานเครียดจัดจนเคยคิดฆ่าตัวตาย ต้องอยู่อย่างหวาดผวา แจ้งความแล้วแต่เรื่องเงียบ
จากกรณี น.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ร้องเรียนว่า น้องกัส (นามสมมติ) อายุ 14 ปี มีความพิการทางสมอง ถูกคนร้ายข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำอีก แจ้งตำรวจก็ไม่มีความคืบหน้า โดยครั้งแรกลูกสาวถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนที่กรุงเทพฯ และเป็นคดีความอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หลังจากนั้นจึงได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านการเคหะฯ คิดว่าจะรอดพ้นจากการถูกข่มขืน แต่ก็ถูกกระทำซ้ำ โดยสามีภรรยาที่ติดยาเสพติด ฝ่ายผู้หญิงเป็นคนจับตัวเด็ก แล้วให้สามีของตัวเองกระทำชำเรานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายคล้อย (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ตาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลานของตนไม่ได้เป็นออทิสติก เพียงแต่มีสติปัญญาช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน ชอบลืมง่าย ไม่คิดว่าหลานสาวของตนจะถูกคนร้ายข่มขืนมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคนร้ายบุกมาที่บ้านขณะที่หลานสาวอยู่คนเดียว เนื่องจากตนต้องไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และหลานชายอีกคนต้องไปเรียนหนังสือ แต่หลานสาวไม่ได้ไปเรียนเพราะสมองช้า จึงต้องอยู่บ้าน ทำงานบ้าน โดยคนร้ายได้ใช้ปืนจี้และข่มขืนอย่างอุกอาจ
ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นขณะหลานเอาขยะไปทิ้งเพียงคนเดียว และเจอวัยรุ่นติดยาคนเดิมที่จุดทิ้งขยะ จึงถูกใช้ปืนจี้ข่มขืนอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดเหตุหลานก็กลายเป็นเด็กซึมเศร้า ยอมรับว่ากลัวหลานจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้ครอบครัวของตนอยู่ด้วยความหวาดระแวง และไม่กล้าปล่อยให้หลานอยู่บ้านคนเดียว ต้องหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนหลานตลอดเวลา เพราะยังมีความกังวลเนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นคนในชุมชนหรือไม่
ทั้งนี้ ตนอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนก็อยากเห็นหน้าคนร้าย ซึ่งตนรู้สึกแค้นจนพูดไม่ถูก รู้สึกแน่นอก เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับครอบครัว และรู้สึกสงสารหลานมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณี น.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ร้องเรียนว่า น้องกัส (นามสมมติ) อายุ 14 ปี มีความพิการทางสมอง ถูกคนร้ายข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำอีก แจ้งตำรวจก็ไม่มีความคืบหน้า โดยครั้งแรกลูกสาวถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนที่กรุงเทพฯ และเป็นคดีความอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หลังจากนั้นจึงได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านการเคหะฯ คิดว่าจะรอดพ้นจากการถูกข่มขืน แต่ก็ถูกกระทำซ้ำ โดยสามีภรรยาที่ติดยาเสพติด ฝ่ายผู้หญิงเป็นคนจับตัวเด็ก แล้วให้สามีของตัวเองกระทำชำเรานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายคล้อย (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ตาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลานของตนไม่ได้เป็นออทิสติก เพียงแต่มีสติปัญญาช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน ชอบลืมง่าย ไม่คิดว่าหลานสาวของตนจะถูกคนร้ายข่มขืนมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคนร้ายบุกมาที่บ้านขณะที่หลานสาวอยู่คนเดียว เนื่องจากตนต้องไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และหลานชายอีกคนต้องไปเรียนหนังสือ แต่หลานสาวไม่ได้ไปเรียนเพราะสมองช้า จึงต้องอยู่บ้าน ทำงานบ้าน โดยคนร้ายได้ใช้ปืนจี้และข่มขืนอย่างอุกอาจ
ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นขณะหลานเอาขยะไปทิ้งเพียงคนเดียว และเจอวัยรุ่นติดยาคนเดิมที่จุดทิ้งขยะ จึงถูกใช้ปืนจี้ข่มขืนอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดเหตุหลานก็กลายเป็นเด็กซึมเศร้า ยอมรับว่ากลัวหลานจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้ครอบครัวของตนอยู่ด้วยความหวาดระแวง และไม่กล้าปล่อยให้หลานอยู่บ้านคนเดียว ต้องหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนหลานตลอดเวลา เพราะยังมีความกังวลเนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นคนในชุมชนหรือไม่
ทั้งนี้ ตนอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนก็อยากเห็นหน้าคนร้าย ซึ่งตนรู้สึกแค้นจนพูดไม่ถูก รู้สึกแน่นอก เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับครอบครัว และรู้สึกสงสารหลานมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
