อัจฉริยะ แฉหลังลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนวัดวงเดือน เคสครูอ้อม พบแม่ครัวลดวัตถุดิบ ซ้ำโรงเรียนยังทำไม่เห็น ปล่อยนักเรียนกินของไม่มีคุณภาพ จ่อร้องเด้งระนาว
จากกรณีที่ครูอ้อม ครูแฉโรงเรียนวัดวงเดือน จ.ชัยนาท เรื่องอาหารกลางวันไร้คุณภาพ จนถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท ชั่วคราว ภายหลังโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ติดแฮชแท็ก #saveครูอ้อม จนทำให้มีคำสั่งย้ายครูอ้อมกลับไปประจำที่โรงเรียน ในขณะที่ทาง ผอ. ถูกย้ายออกแทนอ่านข่าว : สั่งย้ายครูอ้อมกลับไปประจำที่โรงเรียน สลับขั้ว ผอ. ย้ายออก เซ่นปมอาหารกลางวัน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เปิดเผยหลังจากเดินทางไปยังโรงเรียนวัดวงเดือน เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า จากการสอบถามเด็กนักเรียนจำนวนมาก และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดในเบื้องต้นพบว่า แม่ครัวได้รับเงินค่าจ้างในการทำอาหารเป็นรายวัน วันละ 2,080 บาท นักเรียนมีทั้งหมด 104 คน คิดเป็นหัวละ 20 บาท สรุปว่าแม่ครัวมีการลดคุณภาพวัตถุดิบลง ทำให้วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผสมอาหารไม่ตรงตามสเปกที่กำหนดไว้ของทางโรงเรียน ทำให้เชื่อว่าเป็นการเอากำไรของแม่ครัว โดยที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียน กับทางคณะกรรมการ ไม่มีการตรวจสอบแม่ครัว ปล่อยให้คุณภาพของอาหารกลางวันของเด็กไม่มีคุณภาพ
ส่วนกรณีการปาเลือดที่หน้าห้องเรียน ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยงู จ.ชัยนาท รับเป็นคดีอาญาเรียบร้อย โดยจะต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของ DNA กับรอยนิ้วมือแฝงในถุงเลือดหมูอีกครั้ง
สำหรับเรื่องการโยกย้ายครูอ้อม ช่วยราชการโดยไม่มีเหตุผลนั้น
ตนจะยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้
และขอให้ย้ายผู้อำนวยการคนดังกล่าวไปช่วยราชการอย่างถาวร
รวมถึงสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเป็นการออกคำสั่งโดยไม่สมเหตุสมผล
ซึ่งที่ผ่านมาสังคมเห็นถึงเจตนาที่ไม่สุจริต เช่น
การสั่งครูไม่ให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลกับสื่อ
ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษทางวินัย
พร้อมขอให้มีการหาแม่ครัวใหม่แทนชุดที่มีปัญหา
พร้อมกำชับให้มีการทำอาหารที่มีคุณภาพตามที่กำหนดไว้ในสัญญา
ข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม