อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประเทศไทยเตรียมรับมือพายุลูกถัดไปจากพายุโพดุล จ่อเข้าไทย 3-4 กันยายน นี้ จะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
วันที่ 2 กันยายน 2562 มีรายงานว่า ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีการแถลงข่าวพายุลูกใหม่ พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน เปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวจะเข้าประเทศไทยต่อจากพายุโพดุล ซึ่งพัฒนาจากหย่อมความกดอากาศต่ําที่อยู่ในบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ และกลายเป็นพายุดีเปรสชัน ระดับ 2 แล้ว มีจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ขณะนี้ยังไม่มีชื่อเพราะยังอยู่ในระดับ 2 แต่คาดว่าจะชื่อ "พายุคาจิกิ" ซึ่งเป็นชื่อที่ทางประเทศญี่ปุ่นตั้งไว้ หากพัฒนาเป็นระดับ 3 หรือพายุโซนร้อน
โดยพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบเบื้องต้นกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางซีกตะวันออกก่อน อาทิ จ.บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ก่อนจะครอบคลุมในทุกจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันพรุ่งนี้ (3 กันยายน)
ภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ทั้งนี้ ดร.ภูเวียง กล่าวว่า ปกติแล้วประเทศไทยในช่วงระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม ของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีพายุเข้ามากที่สุด โดยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีพายุเข้ามาในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม รวมกว่า 30 ลูก จึงเชื่อว่าหลังจากพายุโพดุลแล้ว ระหว่างนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคม จะมีพายุเข้าอย่างต่อเนื่องอีกแน่นอน
ขณะที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 4 กันยายน 2562)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 ระบุว่า...
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน อยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 18.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) ในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่และฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย
คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้...
ในช่วงวันที่ 2-3 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่...
- ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ในวันที่ 4 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนัก ได้แก่...
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรมอุตุนิยมวิทยา
โดยพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบเบื้องต้นกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางซีกตะวันออกก่อน อาทิ จ.บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ก่อนจะครอบคลุมในทุกจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันพรุ่งนี้ (3 กันยายน)
ภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ทั้งนี้ ดร.ภูเวียง กล่าวว่า ปกติแล้วประเทศไทยในช่วงระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม ของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีพายุเข้ามากที่สุด โดยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีพายุเข้ามาในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม รวมกว่า 30 ลูก จึงเชื่อว่าหลังจากพายุโพดุลแล้ว ระหว่างนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคม จะมีพายุเข้าอย่างต่อเนื่องอีกแน่นอน
ขณะที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 4 กันยายน 2562)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 ระบุว่า...
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน อยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 18.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) ในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่และฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย
คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้...
ในช่วงวันที่ 2-3 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่...
- ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ในวันที่ 4 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนัก ได้แก่...
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรมอุตุนิยมวิทยา