สาว 18 ป่วยโรคปอด นอนโคม่า อาการสาหัสจนเฉียดความตาย แพทย์คาดผลพวงจากบุหรี่ไฟฟ้า หลังสูบจัดต่อเนื่อง 3 ปี
วันที่ 31 สิงหาคม 2562 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า แมดดี้ นีลสัน เด็กสาววัย 18 ปี จากรัฐยูทาห์ สหรัฐฯ
มีอันต้องป่วยหนักจนหวิดจะเอาชีวิตไม่รอด จากนิสัยการสูบจัดของเธอ
หลังจากที่เธอสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่องทุกวัน มาเป็นระยะเวลานานถึง 3 ปี
จนทำให้ปอดของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก
รายงานเผยว่า แมดดี้เริ่มมีอาการไม่สู้ดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม เธอก็เริ่มเจ็บหลังและไตอย่างรุนแรง กระทั่งเริ่มมีอาการหายใจติดขัด ทางบ้านจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม แอนเดรีย พี่สาวของแมดดี้ เผยว่า แพทย์พยายามให้ออกซิเจนแก่แมดดี้ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนชีวิตของแมดดี้เฉียดใกล้ความตาย ผลการเอกซเรย์เผยให้เห็นว่าปอดของเธอมีความเสียหายรุนแรงมาก กระทั่งในที่สุดแมดดี้ก็อยู่ในสภาพโคม่า
จนกระทั่งวันที่ 1 สิงหาคม ผลการวินิจฉัยจากการส่องกล้องหลอดลม 2 ครั้ง ทำให้ทราบว่าแมดดี้นั้นป่วยเป็นโรคปอดรุนแรง ชนิดที่ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมากมาสะสมที่ปอด ซึ่งแพทย์สงสัยว่าน่าจะเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ภาพจาก gofundme
ทั้งนี้
หลังจากให้ยาสเตียรอยด์ อาการของเด็กสาวก็ดีขึ้นและฟื้นจากภาวะโคม่าใน 3
วันต่อมา จนสามารถหายใจเองได้แล้ว
แม้จะยังต้องได้รับการให้ออกซิเจนในเวลากลางคืนก็ตาม
ต่อมา แมดดี้ยังได้นำเรื่องราวของเธอมาแชร์ต่อ เพื่อหวังให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้คนจำนวนมาก ในยุคสมัยที่ผู้คนหันมานิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น โดยชี้ว่า เธออยากให้ทุกคนได้ตระหนักว่ามีสารบางอย่างที่น่ากลัวมาก ๆ อยู่ในบุหรี่ที่หน้าตาเหมือนปากกาเหล่านี้ มันไม่ปลอดภัยแม้แต่น้อย เกือบจะพรากเอาชีวิตของเธอไปแล้วด้วยซ้ำ
"ฉันเคยบอกตัวเองว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับฉันหรอก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และมันก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้เช่นกัน ฟังที่ฉันแนะนำเถอะ อย่าสูบบุหรี่ และอย่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลย"
รายงานเผยว่า แมดดี้เริ่มมีอาการไม่สู้ดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม เธอก็เริ่มเจ็บหลังและไตอย่างรุนแรง กระทั่งเริ่มมีอาการหายใจติดขัด ทางบ้านจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม แอนเดรีย พี่สาวของแมดดี้ เผยว่า แพทย์พยายามให้ออกซิเจนแก่แมดดี้ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนชีวิตของแมดดี้เฉียดใกล้ความตาย ผลการเอกซเรย์เผยให้เห็นว่าปอดของเธอมีความเสียหายรุนแรงมาก กระทั่งในที่สุดแมดดี้ก็อยู่ในสภาพโคม่า
จนกระทั่งวันที่ 1 สิงหาคม ผลการวินิจฉัยจากการส่องกล้องหลอดลม 2 ครั้ง ทำให้ทราบว่าแมดดี้นั้นป่วยเป็นโรคปอดรุนแรง ชนิดที่ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมากมาสะสมที่ปอด ซึ่งแพทย์สงสัยว่าน่าจะเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ภาพจาก gofundme
ต่อมา แมดดี้ยังได้นำเรื่องราวของเธอมาแชร์ต่อ เพื่อหวังให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้คนจำนวนมาก ในยุคสมัยที่ผู้คนหันมานิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น โดยชี้ว่า เธออยากให้ทุกคนได้ตระหนักว่ามีสารบางอย่างที่น่ากลัวมาก ๆ อยู่ในบุหรี่ที่หน้าตาเหมือนปากกาเหล่านี้ มันไม่ปลอดภัยแม้แต่น้อย เกือบจะพรากเอาชีวิตของเธอไปแล้วด้วยซ้ำ
"ฉันเคยบอกตัวเองว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับฉันหรอก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และมันก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้เช่นกัน ฟังที่ฉันแนะนำเถอะ อย่าสูบบุหรี่ และอย่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลย"
ทั้งนี้ พบว่าในสหราชอาณาจักร
บุหรี่ไฟฟ้ายังคงถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้คนเลิกบุหรี่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลมากขึ้น
เมื่อคนหนุ่มสาวเริ่มหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากัน
เพราะนอกจากมันจะให้สารนิโคตินเหมือนบุหรี่แล้ว
บางผลิตภัณฑ์ยังมีการเติมแต่งกลิ่นและรสให้เลือกมากมาย เช่น วานิลลา
ซินนามอน และเชอร์รี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ
เริ่มออกมาเตือนถึงอันตรายที่แฝงอยู่ของบุหรี่ไฟฟ้า