DSI ยันแล้ว กระดูกในถังใต้เขื่อนแก่งกระจานคือ บิลลี่ พอละจี นักสิทธิมนุษยชน แกนนำกะเหรี่ยงผู้ต่อสู้เรื่องสิทธิ์ในที่ทำกิน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเมื่อปี 2557 และหายตัวไปนานกว่า 5 ปี หลังผลดีเอ็นเอยันตรงกับแม่
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย หลังจากเมื่อวันที่ 26 เมษายน และวันที่ 22-24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ใช้เครื่องยานยนต์สำรวจใต้น้ำ และนักประดาน้ำ ตรวจหาพยานหลักฐานใต้น้ำ บริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน จนพบชิ้นส่วนกระดูก จำนวน 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง เหล็กเส้น จำนวน 2 เส้น ถ่านไม้ จำนวน 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน
พ.ต.อ. ไพสิฐ ระบุอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพยานหลักฐานในสำนวนทั้งหมดจึงเชื่อว่า วัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของนายพอละจี ที่เสียชีวิตแล้ว แต่สาเหตุการเสียชีวิตนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีการเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี ส่วนถังน้ำมัน เหล็กเส้น ถ่านไม้ และเศษฝาถังน้ำมัน ได้ส่งทำการตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการผ่านความร้อน และการผุกร่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ ส่วนชิ้นส่วนกระดูกที่พบบริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน จำนวนกว่า 20 ชิ้นนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ
ทั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะมีการฆาตกรรมโดยทรมาน และการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มองค์กรที่กระทำความผิดโดยเร็ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ อีกประมาณ 1 เดือน