หนุ่มอินเดีย โดนฝูงอีการุมจิกติดต่อกัน 3 ปี เหตุคิดว่าฆ่าลูกนกตาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วคิดจะช่วย แต่ไม่สำเร็จ จึงกลายเป็นเหยื่อสังเวยความแค้น โดนอีกาโจมตีทุกวัน
ทุกครั้งที่หนุ่มอินเดียคนนี้ก้าวเท้าออกจากบ้าน เขาจะภาวนาลึก ๆ อยู่ในใจ
ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเขตสงคราม
และสิ่งที่เขาพบเจอก็ไม่ใช่การถูกเครื่องบินรบปูพรมถล่มระเบิดใส่
หรืออะไรแบบนั้น เพราะคู่กรณีของเขาคือ อีกา ที่บินมาจิกเขาตลอดเวลา
สาเหตุที่อีกาทำแบบนี้
เป็นเพราะความแค้นฝังลึกที่มีต่อเขา
ทว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด
และผู้ชายที่น่าสงสารคนนี้ต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
โดนอีกาจิกจนพรุนมา 3 ปี เต็ม ๆ
จากการรายงานของ
เว็บไซต์ไทมส์ออฟอินเดีย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ระบุว่า
เรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านสุเมลา ในเมืองศิวปุระ
รัฐมัธยประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย
ชายหนุ่มผู้น่าสงสารคนนี้มีชื่อว่า ศิวา เกลาต
ย้อนกลับไปเมื่อ 3
ปีก่อน ศิวาพบเห็นลูกนกกาตัวหนึ่งติดอยู่กับตาข่ายลูกกรงเหล็ก
ด้วยความที่เขาเป็นคนรักสัตว์มาก เขาจึงพยายามช่วยชีวิตกาน้อยตัวนี้
แต่ก็ไม่สำเร็จ และมันก็ตายลงในมือเขาต่อหน้าพ่อนกแม่นก
และฝูงอีกาหลายตัวที่อยู่ตรงนั้น
สิ่งเดียวที่นกการับรู้ในตอนนั้นคือ
ลูกนกที่น่าสงสารตายในมือศิวา พวกมันจึงมั่นใจ 100
เปอร์เซ็นต์ว่าเขาคือฆาตกรฆ่าลูกนกตัวนั้น และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ศิวาก็กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของอีกาทั้งเมือง
ทุกครั้งที่อีกาพบเห็นศิวา
มันจะโฉบเข้ามาทำร้ายเขา ทั้งจิก ทั้งตี บ้างก็มาตัวเดียวเดี่ยว ๆ
บางทีก็มากันเป็นฝูง ทำให้ศิวาต้องพกไม้ติดตัวเอาไว้ตลอด เพื่อคอยไล่พวกมัน
ซึ่งเขาก็ไม่เคยตีมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำแค่โบกไม้ไป-มาเท่านั้น
เพราะไม่อยากให้นกได้รับบาดเจ็บ "พวกนกที่น่าสงสาร
พวกมันคิดว่าผมฆ่าลูกมันตาย ถ้าผมสามารถอธิบายให้พวกมันฟังได้แล้วละก็
ผมจะบอกไปว่าจริง ๆ แล้วผมแค่พยายามจะช่วยลูกนกเท่านั้น" ศิวา
กล่าวอย่างเจ็บปวด
รานจิต คุปตะ
นักข่าวท้องถิ่นที่ได้ยินเรื่องราวดังกล่าว เดินทางลงพื้นที่ไปดูให้เห็นกับตาว่ามันเป็นเรื่องแหกตาหรือเปล่า รานจิต
เล่าว่า มันมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับความแค้นของสัตว์
เช่น ความแค้นของงูเห่า หรือช้าง แต่ความแค้นของอีกาแบบนี้
เป็นอะไรที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาพบเห็นฝูงอีกามารุมจิกคนคนเดียวด้วยความโกรธแค้น
ซึ่งในอินเทอร์เน็ตก็มีคลิปยืนยันได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
ด้วยเหตุนี้
เนื้อตัวของศิวาจึงมีแต่รอยแผลที่เกิดจากการถูกนกกาไล่ทำร้าย
ชาวบ้านเล่าว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง
มันเป็นการโจมตีที่โหดร้ายรุนแรงและน่ากลัวมาก ฝูงอีกากรูเข้ามาจัดการศิวา
มันน่าสะพรึงราวกับฉากเครื่องบินรบยิงถล่มเมืองในหนังแอ็คชั่น ผลลัพธ์คือ
ศิวาสะบักสะบอมมาก ศีรษะมีแต่รอยแผล และมีเลือดไหลเต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม
ศิวาไม่ได้โกรธแค้นเหล่านกกา
อีกทั้งยังรู้สึกทึ่งที่รู้ว่านกมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกับคน
อีกทั้งยังจำหน้าคนได้แม่นยำมาก เพราะไม่มีใครในหมู่บ้านโดนทำร้ายเลยสักคน
มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น
ทางด้าน อโศก กุมาร มันจาละ
นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ปีก
และศาสตราจารย์ประจำภาควิชาพันธุกรรม มหาวิทยาลัยภารคาตุลเลาะห์
(Barkatullah University) ให้ความเห็นว่า
นกกาเป็นนกที่มีความเฉลียวฉลาดมากกว่านกชนิดอื่น และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการแก้แค้นจริง
แม้ว่าอีกาอาจไม่ได้มีความคิดซับซ้อนเทียบเท่ากับมนุษย์
แต่มันก็รู้ว่าใครเคยทำไม่ดีเอาไว้ นอกจากนี้แล้ว
มหาวิทยาลัยวอชิงตันและซีแอตเทิล ก็เคยทำการวิจัยเกี่ยวกับนกกามาหลายครั้ง
ซึ่งก็เผยให้เห็นพฤติกรรมอันน่าทึ่งของมัน ทั้งความจำที่ดีเป็นเลิศ
และการที่พวกมันสามารถจดจำใบหน้ามนุษย์ที่เคยทำร้ายมันได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังสามารถไปเรียกพวกพ้องมาช่วยกันแก้แค้นได้อีกด้วย
สำหรับศิวานั้น
มันเป็นการยากที่จะคาดเดาว่าความแค้นของนกกาจะจบลงเมื่อใด
ซึ่งเขาก็คงต้องอดทนต่อไปอีกนาน
และอาจจะต้องเปลี่ยนมาสวมใส่หมวกกันน็อกเวลาออกจากบ้าน ทั้งเพื่อปิดบังใบหน้า
และป้องกันการโจมตีของนกที่โกรธแค้น