สาวถูกฆ่าเปลือย มัดมือมัดเท้า ก่อนตายร้องคร่ำครวญ ทุบประตูหลายครั้ง เพื่อนข้างห้องไม่ช่วย คิดว่าผัวเมียทะเลาะกัน ด้านกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย คาดเป็นคนร้าย
จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญ น.ส.เพ็ญพิมล บุญช่วยเหลือ หรือ เปิ้ล อายุ 37 ปี ถูกพบเป็นศพภายในห้องพัก สภาพศพเปลือย และถูกมัดมือมัดเท้าแน่น โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า น.ส.เพ็ญพิมล อาศัยอยู่คนเดียว อยู่ดี ๆ ก็หายเงียบ ไม่สามารถติดต่อได้ 2 วัน จนตัดสินใจขึ้นไปดูที่ห้อง พบว่าเพื่อนเสียชีวิตสยอง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยรังสิต-นครนายก 20 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี (อ่านข่าว : สาวอยู่ห้องคนเดียว หายไป 2 วันก่อนพบเป็นศพ ถูกฆ่าเปลือยจับพันธนาการ)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ครอบครัวได้เดินทางไปรับศพ น.ส.เพ็ญพิมล ผู้เสียชีวิต กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ระยอง แล้ว โดย นายศุภศักดิ์ ห้วยใหญ่ ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องสาวมีลูกชาย 1 คน อายุประมาณ 2 ขวบ หลังจากมีลูกก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี และอยู่มาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว
น้องไม่เคยส่งข่าวให้ครอบครัวรับทราบ อีกทั้งไม่ค่อยได้ปรึกษาอะไร พ่อของน้องเป็นชาวประมง ออกเรือหาปลาตลอด ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนแม่ที่อยู่บ้าน ก็ไม่ค่อยได้คุยเช่นกัน มีเพียงปีที่แล้วที่น้องสาวกลับไปเยี่ยมบ้าน ก่อนจะกลับมาทำงานต่อ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าน้องทำงานอะไร รู้แค่ว่าก่อนหน้านี้น้องเคยทำงานเป็นพนักงานที่โรงงานใน จ.ชลบุรี ตนกับครอบครัวก็ยังคงตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงถูกฆ่าอย่างโหดร้ายเช่นนี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ด้านผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่ห้อง 817 และมักจะลงมาซื้อของที่ร้านค้าด้านล่างอยู่เป็นประจำ ในช่วงก่อนเกิดเหตุ แม่บ้านเล่าว่า พบเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาถามหาห้อง 817 แม่บ้านจึงเปิดให้เข้าไป เพราะคิดว่าเป็นคนรู้จัก จนกระทั่งมาพบว่า น.ส.เพ็ญพิมล เสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพเปลือยเปล่า มือและเท้าถูกมัดด้วยสายไฟ
กล้องวงจรปิดบริเวณอาคารกลางซอยรังสิต-นครนายก 20 สามารถจับภาพชายคนนี้เอาไว้ได้ ซึ่งพบว่ามีอายุราว 50 ปี สวมเสื้อคลุมสีแดง กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ สวมหมวก สะพายกระเป๋าสะพายข้างสีดำ เดินเล่นโทรศัพท์ผ่านไปผ่านมาบริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ในเวลา 23.34 น.
ทางด้าน น.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้อาศัยอยู่ข้างห้องของ น.ส.เพ็ญพิมล กำลังจะย้ายข้าวของออกจากอพาร์ตเมนต์ เนื่องจากหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.แก้ว เปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ข้างห้องดังกล่าวได้ประมาณ 2 เดือน และตนก็เคยพบเจอ น.ส.เพ็ญพิมล ประมาณ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยพูดคุยกัน
กระทั่งในคืนวันที่ 5 กันยายน เวลาหลังเที่ยงคืน ตนได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง คร่ำครวญเหมือนกับกำลังหวาดกลัว และได้ยินเสียงทุบประตูหลายครั้ง นานประมาณ 5 นาที หลังจากเสียงเงียบไป ตนก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งหนีออกจากห้อง
ยอมรับว่าตอนนั้นตนไม่ได้นึกสงสัย และไม่กล้ายุ่ง เพราะคิดว่าผัวเมียทะเลาะกันปกติ เมื่อถึงตอนเช้า ตนได้ไปแจ้งนิติบุคคลของอพาร์ตเมนต์ว่าได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และต่อมาในช่วงค่ำ ตนได้ย้อนกลับมาดูไฟที่ระเบียงของห้องที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีไฟเปิดอยู่ จึงคิดว่าคงไม่เป็นไร เจ้าของห้องน่าจะพักอยู่ตามปกติและยังมีชีวิตอยู่
จนกระทั่งได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้อง และพบว่า น.ส.เพ็ญพิมล กลายเป็นศพแล้ว ตนยอมรับว่ารู้สึกกลัวและสงสารผู้เสียชีวิต ส่วนที่ตัดสินใจย้ายออก ไม่ใช่เพราะกลัวผี หรือกลัวสิ่งลี้ลับ แต่เป็นเพราะรู้สึกกลัวที่เหตุแบบนั้นมาเกิดข้างห้อง และกลิ่นของศพค่อนข้างแรง
สำหรับผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า น.ส.เพ็ญพิมล เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกอุดกั้นบริเวณปากและจมูก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้เสียชีวิต และอาจเป็นการฆ่าปิดปาก เพราะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คาดว่าหลังเกิดเหตุ คนร้ายน่าจะหลบหนีออกจากทางประตูด้านล่าง เพราะคนในตึกพบเห็นคนร้ายเดินขึ้นตึกไป แต่ไม่เห็นกลับออกมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญ น.ส.เพ็ญพิมล บุญช่วยเหลือ หรือ เปิ้ล อายุ 37 ปี ถูกพบเป็นศพภายในห้องพัก สภาพศพเปลือย และถูกมัดมือมัดเท้าแน่น โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า น.ส.เพ็ญพิมล อาศัยอยู่คนเดียว อยู่ดี ๆ ก็หายเงียบ ไม่สามารถติดต่อได้ 2 วัน จนตัดสินใจขึ้นไปดูที่ห้อง พบว่าเพื่อนเสียชีวิตสยอง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยรังสิต-นครนายก 20 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี (อ่านข่าว : สาวอยู่ห้องคนเดียว หายไป 2 วันก่อนพบเป็นศพ ถูกฆ่าเปลือยจับพันธนาการ)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ครอบครัวได้เดินทางไปรับศพ น.ส.เพ็ญพิมล ผู้เสียชีวิต กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ระยอง แล้ว โดย นายศุภศักดิ์ ห้วยใหญ่ ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องสาวมีลูกชาย 1 คน อายุประมาณ 2 ขวบ หลังจากมีลูกก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี และอยู่มาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว
น้องไม่เคยส่งข่าวให้ครอบครัวรับทราบ อีกทั้งไม่ค่อยได้ปรึกษาอะไร พ่อของน้องเป็นชาวประมง ออกเรือหาปลาตลอด ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนแม่ที่อยู่บ้าน ก็ไม่ค่อยได้คุยเช่นกัน มีเพียงปีที่แล้วที่น้องสาวกลับไปเยี่ยมบ้าน ก่อนจะกลับมาทำงานต่อ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าน้องทำงานอะไร รู้แค่ว่าก่อนหน้านี้น้องเคยทำงานเป็นพนักงานที่โรงงานใน จ.ชลบุรี ตนกับครอบครัวก็ยังคงตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงถูกฆ่าอย่างโหดร้ายเช่นนี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ด้านผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่ห้อง 817 และมักจะลงมาซื้อของที่ร้านค้าด้านล่างอยู่เป็นประจำ ในช่วงก่อนเกิดเหตุ แม่บ้านเล่าว่า พบเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาถามหาห้อง 817 แม่บ้านจึงเปิดให้เข้าไป เพราะคิดว่าเป็นคนรู้จัก จนกระทั่งมาพบว่า น.ส.เพ็ญพิมล เสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพเปลือยเปล่า มือและเท้าถูกมัดด้วยสายไฟ
กล้องวงจรปิดบริเวณอาคารกลางซอยรังสิต-นครนายก 20 สามารถจับภาพชายคนนี้เอาไว้ได้ ซึ่งพบว่ามีอายุราว 50 ปี สวมเสื้อคลุมสีแดง กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ สวมหมวก สะพายกระเป๋าสะพายข้างสีดำ เดินเล่นโทรศัพท์ผ่านไปผ่านมาบริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ในเวลา 23.34 น.
ทางด้าน น.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้อาศัยอยู่ข้างห้องของ น.ส.เพ็ญพิมล กำลังจะย้ายข้าวของออกจากอพาร์ตเมนต์ เนื่องจากหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.แก้ว เปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ข้างห้องดังกล่าวได้ประมาณ 2 เดือน และตนก็เคยพบเจอ น.ส.เพ็ญพิมล ประมาณ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยพูดคุยกัน
กระทั่งในคืนวันที่ 5 กันยายน เวลาหลังเที่ยงคืน ตนได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง คร่ำครวญเหมือนกับกำลังหวาดกลัว และได้ยินเสียงทุบประตูหลายครั้ง นานประมาณ 5 นาที หลังจากเสียงเงียบไป ตนก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งหนีออกจากห้อง
ยอมรับว่าตอนนั้นตนไม่ได้นึกสงสัย และไม่กล้ายุ่ง เพราะคิดว่าผัวเมียทะเลาะกันปกติ เมื่อถึงตอนเช้า ตนได้ไปแจ้งนิติบุคคลของอพาร์ตเมนต์ว่าได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และต่อมาในช่วงค่ำ ตนได้ย้อนกลับมาดูไฟที่ระเบียงของห้องที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีไฟเปิดอยู่ จึงคิดว่าคงไม่เป็นไร เจ้าของห้องน่าจะพักอยู่ตามปกติและยังมีชีวิตอยู่
จนกระทั่งได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้อง และพบว่า น.ส.เพ็ญพิมล กลายเป็นศพแล้ว ตนยอมรับว่ารู้สึกกลัวและสงสารผู้เสียชีวิต ส่วนที่ตัดสินใจย้ายออก ไม่ใช่เพราะกลัวผี หรือกลัวสิ่งลี้ลับ แต่เป็นเพราะรู้สึกกลัวที่เหตุแบบนั้นมาเกิดข้างห้อง และกลิ่นของศพค่อนข้างแรง
สำหรับผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า น.ส.เพ็ญพิมล เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกอุดกั้นบริเวณปากและจมูก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้เสียชีวิต และอาจเป็นการฆ่าปิดปาก เพราะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คาดว่าหลังเกิดเหตุ คนร้ายน่าจะหลบหนีออกจากทางประตูด้านล่าง เพราะคนในตึกพบเห็นคนร้ายเดินขึ้นตึกไป แต่ไม่เห็นกลับออกมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
