ปคบ. แถลงปมร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ แหลมเกต พบมีผู้เสียหายกว่า 22,000 คน ฉ้อโกงเงินลูกค้าไปกว่า 50 ล้าน แต่เงินในบัญชีเหลือแค่ 90 บาท เร่งตรวจสอบการยักย้ายถ่ายเทไปยังบัญชีอื่นหรือไม่ พร้อมคุมตัว โจม พารณจุลกะ ฝากขัง
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายอพิชาต บวรบัญชารักข์ หรือ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด และเจ้าของร้านบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง แหลมเกต หลังมีการออกโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรรับประทานบุฟเฟ่ต์ราคาถูกให้กับลูกค้าจำนวนมาก แต่กลับมีปัญหาสารพัดและอาหารก็ด้อยคุณภาพลง ต่อมาทางร้านได้ประกาศปิดตัวลง แต่ไม่คืนเงินให้กับลูกค้า จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีแม่ค้าซีฟู้ดเข้าแจ้งความว่าจ่ายเช็คเด้งด้วย รวมเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวนั้น
อ่านข่าว : ค้านประกันตัว โจม แหลมเกต เจ้าของบุฟเฟ่ต์ดัง ขายคูปองแล้วหนี - จ่ายเช็คเด้ง
ล่าสุด (11 กันยายน 2562) เฟซบุ๊ก อีจัน รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้แถลงผลการจับกุมดังกล่าว โดย พล.ต.ต. ศิรัชเขตร์ ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. ระบุว่า จากการที่ร้านแหลมเกต ไม่สามารถให้บริการอาหารได้ตามโฆษณานั้น พบว่ามีมูลค่าความเสียหายมากถึง 50 ล้านบาท
โดยทางร้านได้จำหน่ายบัตรรับประทานอาหาร เช่น โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์ ชุดละ 880 บาท, โปรนาทีทองมาแล้วจ้า ชุดละ 2,020 บาท และโปรแฟนพันธุ์แท้ ชุด 3,000 บาท ซึ่งหากชวนเพื่อนไปกินด้วยหลายคนจะตกประมาณหัวละไม่ถึงร้อย หรือร้อยกว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบว่าขณะนี้ผู้ต้องหาเหลือยอดเงินในบัญชีเพียง 90 บาท จึงเตรียมขยายผลว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปยังผู้ใด เพื่อติดตามยึดทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
ทั้งนี้ พบว่าร้านแหลมเกตได้จ้างบริษัทคอลเซ็นเตอร์ มาช่วยจำหน่ายบัตร Gift Voucher ตั้งแต่ปี 2561-2562 จำนวน 57 โปรโมชั่น มีผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 22,067 คน จำนวนคูปอง 371,844 ที่นั่ง มีเงินเข้าบัญชีกว่า 30 ล้านบาท รวมถึงมีกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของร้านอาหารสด หรือผู้ส่งวัตถุดิบมายังร้าน ที่ถูกจ่ายเป็นเช็คเด้ง ซึ่งจะแยกออกเป็นอีกคดี
เบื้องต้นผู้ต้องหาโดนคดีร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณในสินค้า หรือบริการด้วยการโฆษณา ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และได้คุมตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้สอบผู้เสียหายไป 350 ปาก และคาดว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นที่ทราบข่าวเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก