ลุงช็อก จระเข้ยักษ์ลากหลานไปกินต่อหน้า พยายามต่อสู้แต่ไร้ปัญญาช่วย เจออีกทีเหลือแค่ศพไร้หัว แขน-ขาหาย ใจสลายต้องเห็นภาพสะเทือนใจกับตา
วันที่ 11 กันยายน 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า เกิดเหตุสลดขึ้นอีกครั้งในหมู่เกาะบาลาบัก พื้นที่ทางใต้สุดของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งปรากฏข่าวจระเข้ทำร้ายมนุษย์บ่อยครั้ง โดยล่าสุดพบว่ามีเหยื่ออีกรายที่ต้องตกเป็นเครื่องสังเวยแก่จระเข้ขนาดใหญ่ นั่นคือ โรมิโล ซัปปายานิ มิรันดา เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ออกไปตกปลาในแม่น้ำกับผู้เป็นลุง เขาถูกจระเข้กัดกินศีรษะ แขนซ้าย และขาทั้ง 2 ข้าง ทิ้งไว้เพียงลำตัวกับแขนอีกข้างที่เหลือให้ดูต่างหน้าเท่านั้น
รายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา มิรันดาได้ออกไปตกปลาที่แม่น้ำกับ ปาโบล ทาเนียน ลุงวัย 40 ปี เพื่อจะนำปลามาทำมื้อกลางวัน แต่ในระหว่างที่ลุงกำลังดำน้ำ และเด็กหนุ่มลุยลงน้ำไปวางอวนนั้น อยู่ ๆ จระเข้ขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมา ฝังเขี้ยวลงตรงคอของเด็กหนุ่มจนเขาหมดสติ และลากตัวเขาลงน้ำไป
ในตอนที่ลุงโผล่ขึ้นมา ก็พบเพียงไฟฉายของหลานชายที่ลอยอยู่ตรงผิวน้ำแล้ว มันทำให้เขาตกใจอย่างมาก และก็ต้องช็อกหนักเมื่อหลังจากนั้นจระเข้ได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง มันคาบและเหวี่ยงร่างของเด็กหนุ่มกระเด็นข้ามฝั่งแม่น้ำ ก่อนจะว่ายตามไปคาบร่างเหยื่อ มุ่งหน้าตรงไปยังแม่น้ำจุดที่ลึกกว่า
ลุงที่หัวใจแตกสลาย เผยว่าเขาพยายามจะสู้กับจระเข้เพื่อช่วยหลานแล้ว แต่จระเข้นั้นตัวใหญ่เกินไป รวมถึงระดับน้ำก็ลึกเกินไปด้วย ตัวเขานั้นมีเพียงอวนกับอุปกรณ์ตกปลาเท่านั้น ไม่มีอะไรจะช่วยทำให้จระเข้ยอมปล่อยหลานชายได้เลย "ผมพยายามแล้ว... แต่จระเข้มันรวดเร็วและแข็งแกร่งเกินไป ผมพยายามร้องขอความช่วยเหลือแล้ว"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นที่แม่น้ำสายดังกล่าวในเวลาต่อมา โดยสามารถเก็บกู้ศพที่เหลือเพียงลำตัวของเด็กหนุ่ม กับแขนข้างหนึ่งของเขา ขณะที่อวัยวะอื่น ๆ อย่างศีรษะ ลำตัวช่วงล่าง รวมถึงแขนอีกข้างหนึ่ง ได้หายไป คาดว่าถูกจระเข้กินไปแล้ว
เป็นที่น่าเศร้า ที่ทางตำรวจไม่สามารถติดตามหาตัวจระเข้ยักษ์ที่ก่อเหตุได้ ขณะเดียวกันทางตำรวจยังย้ำว่า ผู้คนควรระมัดระวังเป็นพิเศษหากคิดจะไปหาปลาที่แม่น้ำ ในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงจะเกิดเหตุจระเข้ทำร้ายมนุษย์เช่นนี้
รายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา มิรันดาได้ออกไปตกปลาที่แม่น้ำกับ ปาโบล ทาเนียน ลุงวัย 40 ปี เพื่อจะนำปลามาทำมื้อกลางวัน แต่ในระหว่างที่ลุงกำลังดำน้ำ และเด็กหนุ่มลุยลงน้ำไปวางอวนนั้น อยู่ ๆ จระเข้ขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมา ฝังเขี้ยวลงตรงคอของเด็กหนุ่มจนเขาหมดสติ และลากตัวเขาลงน้ำไป
ในตอนที่ลุงโผล่ขึ้นมา ก็พบเพียงไฟฉายของหลานชายที่ลอยอยู่ตรงผิวน้ำแล้ว มันทำให้เขาตกใจอย่างมาก และก็ต้องช็อกหนักเมื่อหลังจากนั้นจระเข้ได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง มันคาบและเหวี่ยงร่างของเด็กหนุ่มกระเด็นข้ามฝั่งแม่น้ำ ก่อนจะว่ายตามไปคาบร่างเหยื่อ มุ่งหน้าตรงไปยังแม่น้ำจุดที่ลึกกว่า
ลุงที่หัวใจแตกสลาย เผยว่าเขาพยายามจะสู้กับจระเข้เพื่อช่วยหลานแล้ว แต่จระเข้นั้นตัวใหญ่เกินไป รวมถึงระดับน้ำก็ลึกเกินไปด้วย ตัวเขานั้นมีเพียงอวนกับอุปกรณ์ตกปลาเท่านั้น ไม่มีอะไรจะช่วยทำให้จระเข้ยอมปล่อยหลานชายได้เลย "ผมพยายามแล้ว... แต่จระเข้มันรวดเร็วและแข็งแกร่งเกินไป ผมพยายามร้องขอความช่วยเหลือแล้ว"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นที่แม่น้ำสายดังกล่าวในเวลาต่อมา โดยสามารถเก็บกู้ศพที่เหลือเพียงลำตัวของเด็กหนุ่ม กับแขนข้างหนึ่งของเขา ขณะที่อวัยวะอื่น ๆ อย่างศีรษะ ลำตัวช่วงล่าง รวมถึงแขนอีกข้างหนึ่ง ได้หายไป คาดว่าถูกจระเข้กินไปแล้ว
เป็นที่น่าเศร้า ที่ทางตำรวจไม่สามารถติดตามหาตัวจระเข้ยักษ์ที่ก่อเหตุได้ ขณะเดียวกันทางตำรวจยังย้ำว่า ผู้คนควรระมัดระวังเป็นพิเศษหากคิดจะไปหาปลาที่แม่น้ำ ในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงจะเกิดเหตุจระเข้ทำร้ายมนุษย์เช่นนี้