บีบหัวใจ พ่อป่วยฉุกเฉินเกือบตาย แต่รถ 1669 มารับสนามบินดอนเมืองไม่ได้ เขตต้องห้าม !

          สาวเล่าเหตุการณ์บีบหัวใจ พ่อป่วยฉุกเฉิน ปวดท้องหนักเกือบตาย แต่โทร. เรียกรถ 1669 เข้ามารับในสนามบินดอนเมืองไม่ได้ พอให้รถโรงพยาบาลในสนามบินไปส่ง ก็ส่งให้แค่รัศมี 8 กิโลเมตร สุดท้ายพ่อลำไส้ปริแตก แถมเสียสิทธิ UCEP

        วันที่ 12 กันยายน 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก วันดี สันติวุฒิเมธี ได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่คุณพ่อป่วยฉุกเฉิน แต่รถ 1669 ไม่สามารถเข้ามารับที่สนามบินดอนเมืองได้ เพราะสนามบินเป็นเขตต้องห้าม ทำให้เสียการใช้สิทธิ UCEP ที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ภายใน 72 ชั่วโมง ทำให้ทางครอบครัวไม่สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลได้
       ผู้โพสต์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา คุณพ่อเดินทางกลับจากสนามบินอุดรธานี มายังสนามบินดอนเมือง เวลา 21.15 น. ด้วยอาการปวดท้องอย่างหนักและท้องบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกดทับปอด ทำให้หายใจสั้นมาก ซึ่งก่อนขึ้นเครื่องคุณพ่อโทร. มาบอกลูก ๆ ให้มารอรับ แต่เมื่อมาถึงสนามบิน ทางสายการบินพาคุณพ่อไปที่โรงพยาบาลเอกชนในสนามบิน คุณพ่อปวดท้องมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องให้น้ำเกลือ

        ขณะนั้นลูก ๆ โทร. เรียก 1669 ให้เข้ามารับพ่อที่สนามบิน แต่ทาง 1669 แจ้งว่าเข้ามารับไม่ได้เพราะสนามบินเป็นเขตต้องห้าม และบอกให้พาคนป่วยออกมานอกเขตสนามบิน รถ 1669 ถึงจะรับไปส่งที่โรงพยาบาลได้ แต่ขณะนั้นคุณพ่อปวดท้องมาก ต้องนอนบนเตียงเท่านั้นเนื่องจากท้องบวม ลูก ๆ จึงไม่กล้าเสี่ยงพานั่งรถยนต์ส่วนตัวออกไป จึงขอให้รถพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนไปส่งโรงพยาบาลข้างนอก แต่ปรากฏว่ารถพยาบาลของที่นี่สามารถไปส่งได้แค่โรงพยาบาลในรัศมี 8 กิโลเมตรเท่านั้น



        ทางเลือกมีจำกัดมาก ตนจึงตัดสินใจส่งคุณพ่อไปโรงพยาบาลรัฐใกล้สนามบินดอนเมือง ทางโรงพยาบาลบอกว่าเคสของคุณพ่อไม่เร่งด่วน และให้รอผ่าตัดอีก 2 วัน แต่ลูก ๆ ไม่อยากเสี่ยงให้คุณพ่อรออีก 2 วัน จึงตัดสินใจติดต่อโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งให้มารับ คุณหมอของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวประเมินว่าลำไส้ของคุณพ่อมีความเสี่ยงต่อการปริแตก ถ้าไม่ผ่าตัดด่วน คุณพ่อก็จะต้องเสียชีวิตจากลำไส้แตกอย่างแน่นอน

         โดยคุณพ่อได้รับการผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น (7 สิงหาคม) เวลา 10.30 น. และพบว่าลำไส้ปริแตกไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมอได้ทำการช่วยชีวิตเบื้องต้นในการผ่าตัดครั้งที่ 1 และคุณพ่อต้องได้รับการผ่าตัดครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง รวมแล้วพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 1 เดือนเต็ม

         หลังจากคุณพ่อได้รับการผ่าตัดช่วยชีวิตแล้ว ทางลูก ๆ ได้ติดต่อไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ UCEP  เพื่อสอบถามถึงการใช้สิทธิฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์บอกว่า อาการของคุณพ่อเข้าข่ายผู้ป่วยฉุกเฉินจริง แต่ไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้ เพราะคุณพ่อไม่ได้มาถึงโรงพยาบาลด้วยรถ 1669 หรือรถยนต์ส่วนตัวของครอบครัว แต่เพราะถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลอื่น ซึ่งถือเป็นเคสส่งต่อจากโรงพยาบาลอื่น ไม่ใช่เคสที่ป่วยฉุกเฉินแล้วเข้ามาที่โรงพยาบาลเลย

         ขณะนี้ทางครอบครัวกำลังเตรียมยื่นจดหมายเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีป่วยฉุกเฉินที่สนามบิน เพราะอยากให้กรณีนี้เป็นวิทยาทานกับครอบครัวอื่นที่อาจเกิดเหตุป่วยฉุกเฉินที่สนามบิน หรือหากต้องการใช้สิทธิฉุกเฉินในอนาคต

         อย่างไรก็ตาม มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่บีบหัวใจเหลือเกิน ในเวลาคับขันแต่กลับมีข้อจำกัดมากมายเข้ามาบีบบังคับ ซึ่งเสี่ยงกับชีวิตผู้ป่วยอย่างมาก


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก วันดี สันติวุฒิเมธี