แม่ค้าทำหม่ำขาย เจอญาติหลอกมีตำรวจ ตม. จะมาจับ ให้โอนเงิน 2.5 ล้านปิดคดี

แม่ค้าทำหม่ำขาย เจอญาติหลอกมีตำรวจ ตม. จะมาจับ ให้โอนเงิน 2.5 ล้านปิดคดี สุดท้ายกลายเป็นความแตก เพราะโดนขู่เอาเงินเพิ่ม

ภาพจาก สำนักข่าว INN

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 สำนักข่าว INN รายงานว่า นางอัจฉรา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.9 ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความ กับ ร.ต.อ. ภูเบศ ศรีเบี้ย สว.(สอบสวน) สภ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อให้จับกุม น.ส.มล (น.ส.นฤมล ทองดี) อายุ 31 ปี หลังถูกหลอกให้โอนเงินไปทั้งหมด 2,500,000 บาท

นางอัจฉรา กล่าวว่า ตนเองนั้นมีอาชีพทำหม่ำขาย แต่เมื่อเดือน ส.ค. 2561 ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี ขากลับได้ซื้ออุปกรณ์ทำชาบูกลับมาด้วยและกลับมาทำหม่ำขายที่บ้านเช่นเดิม กระทั่งเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา น.ส.มล ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน เคยมีสามีอยู่ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กลับมาที่บ้าน ที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับบอกว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพัทยา ที่รู้จักกับอดีตสามีของ น.ส.มล ชื่อว่านายแจ้ จะมาจับกุมในข้อหานำเข้าสินค้าไม่เสียภาษีศุลกากร พร้อมทั้งระบุ ตำรวจ ตม. ดังกล่าวมีภาพจากกล้อวงจรปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลักฐาน ถ้าไม่อยากถูกจับ ก็ต้องจ่ายเงินปิดคดี โดยอดีตสามีจะเคลียร์คดีให้

"น.ส.มล มาหาที่บ้านหลายครั้งและบอกว่า ตำรวจ ตม. ลงพื้นที่จะมาจับกุมตัวที่บ้าน จากสาเหตุที่ไปเกาหลีแล้วซื้อของกลับมาโดยไม่เสียภาษี เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ต้องถูกจับ ถ้าไม่อยากถูกจับให้จ่ายเงิน เพื่อเคลียร์คดีและปิดคดีให้ ครอบครัวกลัวมากจึงจ่ายเงินให้ น.ส.มล รวมเป็นเงินทั้งหมด 2,500,000 บาท ซึ่งก็เข้าใจว่าปิดคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่จ่ายเงินมีพยานเห็นทุกครั้ง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.มลมาหาที่บ้านและบอกว่า ตำรวจ ตม. และอีกหลายหน่วยไม่ยอมจบคดี เพราะต้องมีเงินนอนบัญชี 200,000 บาท ทั้งยังบอกว่า น้องสาวกับน้องเขยก็เคลียร์คดีจบแล้ว เพราะจ่ายคนละ 6,500,000 บาท หากอยากจบคดีก็จ่ายเหมือนกัน ที่สำคัญต้องมีเงินเข้าบัญชีภายในวันสองวันนี้

ภาพจาก สำนักข่าว INN

นางอัจฉรา กล่าวต่อว่า ครอบครัวไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะที่มีก็ให้ น.ส.มล ไปจ่ายตำรวจหมดแล้ว จึงหาทางออกไม่ได้ และกลัวถูกตำรวจจับ ไม่รู้จะหาเงินที่ไหน จึงออกไปหาน้องสาวกับน้องเขย ซึ่งเมื่อเจอน้อง ๆ ก็ขอยืมเงินและเล่าเรื่องที่ต้องใช้เงินให้น้อง ๆ ฟัง จึงได้รู้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นถูก น.ส.มล หลอก เพราะน้องสาวและน้องเขยไม่เคยจ่ายเงินให้ตำรวจและไม่เคยมีคดีติดตัวที่ต้องจ่ายเงิน เมื่อรู้ว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ตำรวจติดตามจับกุม น.ส.มล รวมถึงผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

"คนในครอบครัว ญาติพี่น้องต้องเอาบ้าน เอารถยนต์ ที่ดิน ไปขายไปจำนำ เอาเงินมาให้ จนหมดเนื้อหมดตัว ธุรกิจร้านขายหม่ำ ขายชาบู ก็เดินหน้าไปไม่ได้ เพราะไม่มีเงินมาลงทุนแล้ว และต้องการให้ตำรวจตัวจริงจับกุม น.ส.มล และพวก มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ไม่อยากให้ น.ส.มล ไปหลอกลวงต้มตุ๋นใครได้อีกและฝากเตือนทุก ๆ คนที่รู้จักกับ น.ส.มล ว่า อย่าหลงเชื่อคำพูดเด็ดขาด เพราะอาจจะหมดตัวเหมือนครอบครัวตัวเองก็ได้"

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN