นิวซีแลนด์จับอภิมหึมายาไอซ์ 469 กก. - ป.ป.ส. ชี้มีคนไทยเอี่ยว ลักลอบขนข้ามประเทศ

ตำรวจนิวซีแลนด์ ยึดยาไอซ์จำนวนมหาศาล 469 กิโลกรัม พร้อมจับ 3 ผู้ต้องหา ลักลอบขนยาไอซ์ข้ามประเทศ ด้านตำรวจปราบปรามยาเสพติดแถลง พบคนไทยเอี่ยวด้วย

ภาพจาก New Zealand Police

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 เว็บไซต์ศุลกากรนิวซีแลนด์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมและยึดยาเสพติดชนิด เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือ ยาไอซ์ จำนวนมหาศาล นับเป็นการจับยาไอซ์ข้ามประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ทางศุลกากรนิวซีแลนด์เคยพบมา

รายงานเผยว่า ยาไอซ์จำนวนดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ในมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งเข้าประเทศมา โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขนส่งมาทั้งหมด 60 ชิ้น แต่ละชิ้นยัดยาไอซ์ไว้ประมาณ 8 กิโลกรัม รวมทั้งหมดเป็น 469 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 235 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือประมาณ 4.5 พันล้านบาท

ภาพจาก New Zealand Customs

เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย เป็นชาวแคนาดา 2 ราย และชาวนิวซีแลนด์ 1 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบขนยาไอซ์ล็อตใหญ่นี้ และเตรียมขยายผลการจับกุมเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหานำเข้าและครอบครองยาเสพติดประเภท A ทั้งหมดถูกนำตัวไปขึ้นศาลเมืองออกแลนด์ เพื่อรับฟังการพิจารณาคดี ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต

ทั้งนี้ รายงานเผยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทางกรมศุลกากรได้เริ่มทำการตรวจสอบองค์กรอาชญากรรมในต่างประเทศ ที่มีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกับบุคคล และบริษัทในนิวซีแลนด์ กระทั่งในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการขนส่งสินค้าอย่างหนึ่งจากประเทศไทย ได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นสินค้าผิดกฎหมาย เมื่อมาถึงท่าเรือออกแลนด์ ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้เข้าตรวจค้น จนกระทั่งพบการลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว

ภาพจาก New Zealand Police

คืบหน้าวันที่ 15 กันยายน 2562 เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงว่า มีคนไทยเข้าไปเอี่ยวในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว โดยพบว่ามีนายทุนใหญ่ชาวลาวเวียดเป็นคนสั่งการ ลอบส่งยาไอซ์จากต้นทางฝั่งลาว ผ่านมาที่ไทย จากนั้นได้นำมาบรรจุในมอเตอร์ไฟฟ้า ใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือกรุงเทพ และส่งต่อไปที่นิวซีแลนด์

ทั้งนี้ พบว่าบริษัทที่ส่งออกมอเตอร์ไฟฟ้ามีคนไทยเป็นเจ้าของ จึงคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าของบริษัทดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก