เด็ก 6 ขวบ ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ จากวีกรรมกล้าหาญ ฝ่าไฟหม้ไปช่วยเหลือคุณตา จนตัวเองเสียชีวิต แม่เผยคำอาลัย เทวดาไปสวรรค์แล้ว
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า สเวียตโตสลาฟ ยุชคอฟ หรือ สลาวา เด็กชายชาวรัสเซีย วัย 6 ขวบ ได้รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติ จากวีรกรรมสุดกล้าหาญ ยอมสละชีวิตบุกฝ่ากองเพลิงไปช่วยคุณตาที่กำลังถูกไฟไหม้ จนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกไฟคลอกเกือบทั่วทั้งร่าง และเสียชีวิตจากไปอย่างสลด ซึ่งความกล้าหาญของเขา จะเป็นที่จดจำเสมอ
เหตุการณ์สุดเศร้าดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเปโตรซาวอดสค์ สาธารณรัฐคาเรลียา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย โดยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์รัสเซีย กอมโซมลสกายา ปราฟดา ระบุว่า ในวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ตาของหนูน้อยสลาวานั่งอยู่ในตู้อบซาวน่าที่สวนหลังบ้าน จู่ ๆ เขาเกิดเป็นลมล้มวูบไปทับเตาให้ความร้อน จนเตาคว่ำ และเกิดเปลวเพลิงลุกพรึ่บขึ้นมา
เปลวไฟได้ลุกลามไหม้ทั้งตู้ซาวน่าในเวลาอันรวดเร็ว สลาวาพบเห็นเหตุการณ์พอดี เขาจึงวิ่งฝ่าเปลวเพลิงไปพยายามลากตัวคุณตาออกมา ในตอนนั้น ยูเลีย แม่ของสลาวา กำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน ส่วนยายก็นั่งอยู่ในบ้าน ทั้งสองได้เสียงลูกชายกรีดร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งออกไปดู และพบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ห้องซาวน่า
พวกเธอพยายามช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่สำเร็จ ตาได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนเด็กชายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ยูเลียได้แจ้งตำรวจและโทร.
เรียกรถดับเพลิงในทันที โดยหนุ่มน้อยสลาวาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่
แพทย์พบอาการของเด็กชายเขาขั้นโคม่า เพราะว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายเด็กชายถูกไฟคลอก เกือบทั้งหมดเป็นแผลไฟไหม้ระดับสาม ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด เนื่องจากไฟได้เผาผิวหนังลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินหายใจของเขาก็ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากเช่นกัน ทีมแพทย์พยายามรักษาอย่างเต็มที่อยู่ 4 วัน แต่ก็ไม่เป็น พวกเขาจึงได้ทำเรื่องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอื่นที่เชี่ยวชาญกว่า แต่อาการของเด็กสาหัสมาก
ทีมแพทย์ก็คอยดูแลเขาอย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ทว่าหลังจากพยายามยื้อชีวิตกันอยู่นาน เด็กชายก็ไม่สามารถสู้กับอาการบาดเจ็บต่อไปได้ไหว และเสียชีวิตจากไปในวันที่ 9 กันยายน 2562
ข่าวการเสียชีวิตของหนุ่มน้อยสร้างความสะเทือนใจไปทั่วประเทศ
และเขาได้รับการยกย่องชื่นชมอย่างมาก ในความกล้าหาญของเขา
โดยคณะกรรมการสอบสวนกลางของรัสเซีย
ได้มอบเหรียญกล้าหาญให้กับหนุ่มน้อยรายนี้
เพื่อเชิดชูวีรกรรมอันน่ายกย่องของเขา ที่ไม่กลัวอันตราย
เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยคุณตา ไม่ยอมวิ่งหนี แต่สละชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่น
"เทวดตัวน้อยของฉันได้กลับคืนสู่สวรรค์เด็กน้อยคนนี้คือเด็กที่แสนสดใส และมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาอย่างที่สุด ได้โปรดอย่าแสดงความสงสารที่เขาจากไป เพราะเขายังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอและตลอดไป ไม่ได้ห่างหายไปไหน
ฉันเชื่อว่าความกล้าหาญของสเวียตโตสลาฟ จะทำให้คนทั้งโลกได้รับรูว่า มันยังคงมีความเมตตาและความกล้าหาญที่แท้จริงอยู่บนโลกใบนี้
และฉันหวังว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองในชีวิตของใครหลาย ๆ คน ทำให้ใครบางคนเชื่อในความดี ในความเมตตา จนกล้าที่จะยื่นมือไปช่วยเหลือผู้อื่น และท้ายที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้สลาวาไปดีแล้ว เขาพบกับความสุขสงบแล้ว และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป "
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า สเวียตโตสลาฟ ยุชคอฟ หรือ สลาวา เด็กชายชาวรัสเซีย วัย 6 ขวบ ได้รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติ จากวีรกรรมสุดกล้าหาญ ยอมสละชีวิตบุกฝ่ากองเพลิงไปช่วยคุณตาที่กำลังถูกไฟไหม้ จนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกไฟคลอกเกือบทั่วทั้งร่าง และเสียชีวิตจากไปอย่างสลด ซึ่งความกล้าหาญของเขา จะเป็นที่จดจำเสมอ
เหตุการณ์สุดเศร้าดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเปโตรซาวอดสค์ สาธารณรัฐคาเรลียา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย โดยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์รัสเซีย กอมโซมลสกายา ปราฟดา ระบุว่า ในวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ตาของหนูน้อยสลาวานั่งอยู่ในตู้อบซาวน่าที่สวนหลังบ้าน จู่ ๆ เขาเกิดเป็นลมล้มวูบไปทับเตาให้ความร้อน จนเตาคว่ำ และเกิดเปลวเพลิงลุกพรึ่บขึ้นมา
เปลวไฟได้ลุกลามไหม้ทั้งตู้ซาวน่าในเวลาอันรวดเร็ว สลาวาพบเห็นเหตุการณ์พอดี เขาจึงวิ่งฝ่าเปลวเพลิงไปพยายามลากตัวคุณตาออกมา ในตอนนั้น ยูเลีย แม่ของสลาวา กำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน ส่วนยายก็นั่งอยู่ในบ้าน ทั้งสองได้เสียงลูกชายกรีดร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งออกไปดู และพบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ห้องซาวน่า
แพทย์พบอาการของเด็กชายเขาขั้นโคม่า เพราะว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายเด็กชายถูกไฟคลอก เกือบทั้งหมดเป็นแผลไฟไหม้ระดับสาม ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด เนื่องจากไฟได้เผาผิวหนังลึกลงไปถึงกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินหายใจของเขาก็ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากเช่นกัน ทีมแพทย์พยายามรักษาอย่างเต็มที่อยู่ 4 วัน แต่ก็ไม่เป็น พวกเขาจึงได้ทำเรื่องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอื่นที่เชี่ยวชาญกว่า แต่อาการของเด็กสาหัสมาก
ทางหน่วยงานสาธารณสุขประจำพื้นที่จึงเข้าหารือเรื่องนี้
ก่อนตัดสินใจส่งตัวสลาวาขึ้นเครื่องบินไปรักษาต่อที่ศูนย์ไฟไหม้และน้ำร้อนลวก
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวอลกา ที่เมืองนิจนีนอฟโกรอด
ซึ่งห่างลงไปทางใต้ประมาณ 1,112 กิโลเมตร โดยครอบครัวก็ได้เดินทางตามมาด้วย
พวกเขาเช่าที่พักใกล้โรงแรม และตามไปดูอาการสลาวากันอยู่ตลอด
ทีมแพทย์ก็คอยดูแลเขาอย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ทว่าหลังจากพยายามยื้อชีวิตกันอยู่นาน เด็กชายก็ไม่สามารถสู้กับอาการบาดเจ็บต่อไปได้ไหว และเสียชีวิตจากไปในวันที่ 9 กันยายน 2562
ทั้งนี้ พิธีศพของสลาวาได้จัดขึ้นในวันที่ 13 กันยายน ที่เมืองคอนโดโปกา โดย ยูเลีย แม่ของสลา ได้โพสต์ข้อความบน VK โซเชียลมีเดียของรัสเซีย เผยถึงความอาลัยจากใจของแม่ ในวันที่ต้องสูญเสียลูกชาย แต่เขาไม่ได้จากไป เพราะยังอยู่ในหัวใจเสมอ
"เทวดตัวน้อยของฉันได้กลับคืนสู่สวรรค์เด็กน้อยคนนี้คือเด็กที่แสนสดใส และมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาอย่างที่สุด ได้โปรดอย่าแสดงความสงสารที่เขาจากไป เพราะเขายังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอและตลอดไป ไม่ได้ห่างหายไปไหน
ฉันเชื่อว่าความกล้าหาญของสเวียตโตสลาฟ จะทำให้คนทั้งโลกได้รับรูว่า มันยังคงมีความเมตตาและความกล้าหาญที่แท้จริงอยู่บนโลกใบนี้
และฉันหวังว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองในชีวิตของใครหลาย ๆ คน ทำให้ใครบางคนเชื่อในความดี ในความเมตตา จนกล้าที่จะยื่นมือไปช่วยเหลือผู้อื่น และท้ายที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้สลาวาไปดีแล้ว เขาพบกับความสุขสงบแล้ว และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป "
