ฝากขังกรรมการแหลมเกตซีฟู้ดอีก 1 ราย โดยเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ก่อนได้รับการประกันตัวด้วยมูลค่า 3 แสนบาท
จากกรณีที่ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท ผู้ต้องหาที่ 1 (ถูกจับและยื่นคำร้องฝากขังไปก่อนหน้านี้แล้ว) กับ น.ส.ประภัสสร ผู้ต้องหาที่ 2 ได้เปิดบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางเฟซบุ๊ก ทางเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net และ Line:@laemgate จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์ ขายเป็นชุด ชุดละ 880 บาท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี
ข้อหาร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ
ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มีมูลค่าสูง
หากให้ประกันเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ขณะที่วันนี้มีญาติของ น.ส.ประภัสสร มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท
ส่วนนายโจมนั้น ตำรวจ บก.ปคบ. ได้นำตัวมาฝากขังตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน และทางศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวด้วยกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 แสนบาท เช่นกัน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 สำนักข่าว INN รายงานว่า
พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
(บก.ปคบ.) ได้ควบคุมตัว น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา อายุ 40 ปี กรรมการบริษัท
แหลมเกต อินฟินิท จำกัด ผู้ต้องหา
คดีฉ้อโกงเงินลูกค้าโปรแกรมอาหารบุฟเฟ่ต์ร้านอาหารแหลมเกต
มายื่นคำร้องฝากขัง ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน
ตั้งแต่วันที่ 17-28 กันยายน เนื่องจากกระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอื่น ๆ
จากกรณีที่ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท ผู้ต้องหาที่ 1 (ถูกจับและยื่นคำร้องฝากขังไปก่อนหน้านี้แล้ว) กับ น.ส.ประภัสสร ผู้ต้องหาที่ 2 ได้เปิดบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางเฟซบุ๊ก ทางเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net และ Line:@laemgate จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์ ขายเป็นชุด ชุดละ 880 บาท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา
ทางร้านอาหารแหลมเกต ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์และเฟซบุ๊ก
ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น
เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย
ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ
เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวน
350 ราย เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทั้งนี้
มูลค่าความเสียหายทั้งหมดเท่าที่มีผู้เข้ามาแจ้งความรวมกว่า 2,207,720 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Laemgate
ขณะที่วันนี้มีญาติของ น.ส.ประภัสสร มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท
ส่วนนายโจมนั้น ตำรวจ บก.ปคบ. ได้นำตัวมาฝากขังตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน และทางศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวด้วยกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 แสนบาท เช่นกัน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN